จากกรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย และตำรวจไต้หวัน ขอความร่วมมือมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อขอให้ติดตามจับกุม นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยา รวมลูกแฝดในท้อง รวม 4 ศพ ทิ้งท้ายรถยนต์ ก่อนหลบหนีกลับมายังประเทศไทย ล่าสุด ศาลอาญาอนุมัติจับนายสันติ ในคดีฐานฆ่าผู้อื่น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายสุชาติ ศุภอภิรดีไพลิน วัย 63 ปี พ่อของนายสันติ ได้ออกมาวิงวอนลูกชายให้มอบตัวอีกครั้ง หลังทราบว่า ถูกออกหมายจับคดีฆ่าโหด เนื่องจากไม่เชื่อว่าลูกชายจะลงมือลำพัง พร้อมยอมรับได้ยินข่าวคลิปเสียงลับของอาเสิง ความยาว 16 นาที แต่ยังไม่ได้ฟัง

ขณะที่ถิงถิง น้องสาวของ น.ส.พจนีย์ หรือ อามี่ หนึ่งในเหยื่อที่ถูกฆ่าเสียชีวิต ที่เพิ่งกลับจากไต้หวันก่อนเกิดเหตุไม่นาน กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่น่าเชื่อว่านายสันติ จะเป็นคนลงมือฆ่า เพราะทั้งสองคนรักกันมาก ตั้งแต่เด็กจนโต และเธอได้ฟังคลิปลับเสียงของนายสันติ หรือ อาเสิง ความยาว 16 นาที ที่อาเสิงส่งให้ภรรยาของเขา เนื้อหาพูดถึงความกดดันและเรื่องเงิน ยิ่งทำให้เธอไม่เชื่อ ว่าอาเสิงฆ่าพี่สาว แต่เชื่อว่ามีปัญหาซับซ้อนกว่านั้น เธอจึงอยากให้อาเสิง มามอบตัวและพูดความจริงทั้งหมด

ฆ่าโหด “ผัว-เมีย”ชาวไทยในไต้หวัน ตาย4ศพรวมลูกแฝดในท้องซุกรถหรู

แหล่งข่าวในตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากการสืบสวน ทำให้ทราบเบาะแสล่าสุดว่า ผู้ต้องหารายนี้ยังคงหลบหนีหรือซ่อนตัวอยู่ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา เนื่องจากพยานหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่บ้านใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้จัดชุดลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ในพื้นที่ อ.ฝาง อ.ไชยปราการ อ.แม่อาย และพื้นที่จังหวัดเชียงราย ด้าน อ.แม่สาย เพราะจากข้อมูลใหม่ที่ตำรวจได้รับมา นายสันติ น่าจะกำลังอยู่ระหว่างหลบหนีออกจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามไล่ล่าตัวอยู่