เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) กล่าวถึงการยื่นญัตติของฝ่ายค้านเพื่อขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ว่าพรรคเศรษฐกิจไทยมีความชัดเจนว่า เราจะดูสาระสำคัญที่ฝ่ายค้านนำเสนอ ถ้าทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง เราไม่สนับสนุนแน่นอน

เมื่อถามว่า ดูจากรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายใครน่าเป็นห่วงที่สุด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกคนดูน่าเป็นห่วงหมด ยกเว้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้กำกับกระทรวงไหนเป็นหลัก 

เมื่อถามว่า มองว่าการอภิปรายครั้งนี้ รัฐบาลจะรอดหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีมาก่อน รู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร ก็น่าเป็นห่วง ตนประชุมสภา สิ่งที่ห่วงที่สุดคือการเป็น ส.ส. ท่านคือตัวแทนประชาชน จะทำอะไรให้คิดถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าเป็น ส.ส.แล้วไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ แต่ถูกบังคับให้ทำ ครั้งหน้าท่านก็ไม่ได้กลับมา 

“ผมเล่นการเมืองมาตั้งแต่ปี 42 หน้าที่ของนักการเมืองคือทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ผมไม่เคยเห็นภาพการลงมติที่ต้องได้รับการส่งสัญญาณ ภาพที่ออกมาดูน่าเกลียด เพราะการลงมติเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ที่ต้องยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่ไม่ใช่รับฟังคำสั่งอย่างเดียว”  

เมื่อถามถึงการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ตั้งธงแนวทางการโหวต และจะมีการกลับลำเหมือนกับการโหวตลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในการโหวตวาระแรกเรายังไม่เห็นสาระของงบประมาณ การจะไปคว่ำจึงไม่ใช่ แต่ต้องดูวาระ 2 และวาระ 3 ทั้งนี้ในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) จะดูว่างบไหนไม่จำเป็นก็ต้องตัด หากฝืนเราก็ไม่เห็นชอบในวาระ 2 และวาระ 3 ดังนั้นจึงยังมีเวลาอยู่ ยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งธงว่า จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า สิ่งสำคัญในการแปรญัตติงบประมาณ คือการดูว่างบใดไม่สำคัญต้องตัดออก หากยังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่าหวังว่าจะผ่านในวาระ 2 และวาระ 3  

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ติดต่อมาให้ช่วยร่วมโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราไม่รับดีลกับใคร เราเป็นตัวของตัวเอง 

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่าในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 อย่าเลือกคนมีคดีเป็น ส.ส. ว่าการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ที่ลำปางมี 3 พรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นฝ่ายประชาธิปไตย 100% ดังนั้นจึงไม่มีอะไร แล้วแต่ชาวบ้านจะเลือก ส่วนประเด็นที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แถลงอาจเข้าใจคาดเคลื่อน เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงมติว่า มีประเด็นที่บุคคลภายนอกทำความผิด ไม่เกี่ยวกับนายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย จึงสมควรให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ โดยไม่ตัดสิทธินายวัฒนา ดังนั้นต้องดูสาระสำคัญว่าวินิจฉัยอย่างไร และศาลวินิจฉัยแล้วว่านายวัฒนา มิได้เป็นผู้กระทำความผิด การกล่าวโจมตีกันต้องดูข้อเท็จจริง