เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ภายในห้องประชุมเพชรสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายอรรถสิทธิ์ ศรีขุนทด ประธานกลุ่มสถาปนิกสมุย ได้นำสมาชิกร่วมประชุมกับผู้บริหารเทศบาลนครเกาะสมุย โดยมี นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ได้เสนอแนะข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้เกี่ยวกับการก่อสร้างในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ทั้งนี้สืบเนื่องจากกฎหมายควบคุมอาคารที่รัฐได้ออกมาบังคับใช้กว่า 17 ปี ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

ทั้งนี้เนื่องด้วยปัจจุบันมึกฎหมายที่บังดับใช้กี่ยวกับการก่อสร้าง ดัดแปลงอาการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยฉพาะภายในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย ซึ่งประกอบด้วยพระราชบัญญัติการผังเมือง พระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารกฎกระทรวงต่างๆ เทศบัญญัติ และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังไม่เหมาะสมกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน รวมทั้งสภาพพื้นที่สมควรปรับปรุงให้มีความเหมาะสม โดยฉพาะกฎกระทรวงฉบับที่ 22 (พ.ศ. 2532), กฎกระทรวง ฉบับที่ 59 (พ.ศ. 2548) และ ประกาศกระทรวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2557 ทั้งนี้สืบเนื่องจากกฎกระทรวงฉบับต่างๆ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเนื่องจากราคาที่ดินบนเกาะสมุยมีราคาที่สูง ทำให้เกิดผลกระทบกับเจ้าของที่ดินในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแต่ติดข้อจำกัดของกฎกระทรวงที่ไม่สอดคล้องและเหมาะสมกับปัจจุบัน จึงต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวงให้เป็นปัจจุบันที่สำคัญตอบสนองกับความเป็นจริง เพราะเกาะสมุยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อระดับโลก และเป็นจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก การปรับปรุงกฎกระทรวงจึงเป็นสิ่งจำเป็น

โดยกลุ่มสถาปนิกได้ยื่นหนังสือขอให้มีการปรับปรุงกฎกระทรวงผ่านนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ผ่านไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณาเสนอต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป ทั้งนี้ข้อเรียกร้องบางส่วนถึงกฎกระทรวงเดิมกำหนดให้โรงแรม หรือสถานที่พักตากอากาศที่อยู่ห่างจากแนวชายฝั่งทะเลเกินกว่า 50 เมตร และมีจำนวนห้องพักตั้งแต่ 10 ห้อง ถึง 79 ห้อง หรือมีพื้นที่ใช้สอยของอาคารรวมกันตั้งแต่ 500 ตารางเมตร แต่ไม่ถึง 4,000 ตารางเมตร โดยขอให้มีการแก้ไขให้อาคารที่ดำเนินการก่อนวันที่ 30 พ.ค. 2557 หากต้องการดัดแปลงหรือเปลี่ยนการใช้อาคารดังกล่าว ให้จัดทำเฉพาะรายงานผู้ตรวจสอบอาคาร ตามเกณฑ์ของแต่ละประเภทอาคาร ให้ระบุเขตที่ดินแปลงเอกสารสิทธิที่ยื่นขออนุญาตให้แก้ไขเป็นพื้นที่อาคารรวมกันไม่เกิน 150 ตารางเมตร การวัดความสูงของอาคารให้วัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงพื้นดาดฟ้า สำหรับอาคารทรงจั่วหรือปั้นหยาให้วัดจากระดับพื้นดินที่ก่อสร้างถึงยอดผนังของชั้นสูงสุดให้แก้ไข เป็นมีที่ว่างไม่น้อยกว่าร้อยละสามสิบของแปลงที่ดินที่ยื่นขออนุญาต

นายอรรถสิทธิ์ กล่าวว่า ในการขอแก้กฎกระทรวงของกลุ่มสถาปนิกสมุยด้วยสภาพเศรษฐกิจและความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ผู้ประกอบการต้องการเปลี่ยนแปลงการใช้อาคาร แต่ติดขัดข้อกฎหมายทั้งตัวอาคารและสถานที่ ทั้งการปรับปรุงต้องใช้ทั้งเงินทุนและเสียเวลาดำเนินการนาน เพื่อลดภาระผู้ประกอบการ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขออนุญาตประกอบการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ที่สำคัญเป็นการเพิ่มรายได้ให้รัฐ ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อประกอบธุรกิจได้ต่อไป.