เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้แจงประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ออกมาเพื่อคุ้มครอง ป้องกันกลุ่มเปราะบางคือเด็ก เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร ไม่ให้มีการเข้าถึงการใช้กัญชา ดังนั้นในกลุ่มนี้ กฎหมายจะเป็นไปในเชิงป้องกัน แต่ สำหรับคนที่นำกัญชาไปให้กลุ่มเปราะบางที่ห้ามใช้กัญชาตามประกาศนี้มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ขายกัญชาให้เด็ก ให้คนท้อง จะมีโทษทางอาญา และมีความผิดมาตรา 78 พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมื่อถามว่าความผิดดังกล่าวครอบคลุมการทำให้กัญชาทุกประเภทเข้าถึงเด็กต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือเฉพาะบางส่วนบางประเภทเท่านั้น นพ.ยงยศ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วถ้าตัวอาหารจะมีคำแนะนำการบริโภคของกรมอนามัย แต่ประกาศ สธ. เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) จะใช้ช่อดอกเป็นกุญแจสำคัญ แต่ในเมนูอาหารไม่มีคำแนะนำในการใช้ช่อดอกเป็นส่วนผสม

อย่างไรก็ตามคณะกรรมการพิจารณาแล้วว่า ให้ครอบคลุมทั้งวงตระกูลของกัญชาเลยดีกว่า เพื่อป้องกันไมให้เด็ก เยาวชน หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ได้รับกัญชาเลยไม่ว่าจะเป็นราก ต้น กิ่ง ก้าน ใบ ช่อดอก ดังนั้นจึงครอบคลุมทุกส่วนของกัญชา กรณีไปร้านอาหาร แล้วมีเด็กด้วยนั้น สามารถสั่งเมนูที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมมารับประทานได้ แต่พ่อ แม่ ผู้ใหญ่ต้องช่วยกันดูไม่ให้เด็กหรือกลุ่มเปราะบางรับประทานเมนูนั้น

นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานต่างๆ พยายามปิดช่องวางการเข้าถึงกัญชาของเด็กเยาชน กลุ่มเปราะบาง ตอนนี้กำลังดูว่ายังมีรูโหว่ตรงไหน ก็พร้อมที่จะประกาศเพิ่มเติม พร้อมให้ความรู้เพิ่มเติม สื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมาย อย่างประกาศหลายฉบับที่ สธ.ออกมาเพื่อชะลอปัญหาระหว่างรอร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. มีผลบังคับใช้

“ดังนั้นตรงนี้จึงเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว อาจจะไม่ทั้งหมดแต่เชื่อว่าปัญหานั้นจะบรรเทาเบาบาง เราต้องการให้สังคมช่วยกันปกป้องกลุ่มเปราะบางด้วย ซึ่งคิดว่าเสียงสะท้อนที่มีความจริงใจ มองเห็นความอันตราย ทางรัฐมนนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็รับฟัง และนำเสนอต่อไปยังสภาฯ เพื่อปรับแก้ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ อยู่แล้ว คิดว่า มีประโยชน์ เราพร้อมเฝ้าระวัง และปิดช่องว่างต่อไป” อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย กล่าว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มิ.ย. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 โดยมีสาระสำคัญว่า โดยที่พิจารณาเห็นว่ากัญชาเป็นสมุนไพรที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย มีความสำคัญ ทางเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 44 มาตรา 45 (3) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติ คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

1.ให้กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นสมุนไพรควบคุม

2.อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษาขนย้าย จำหน่ายสมุนไพรควบคุมตามข้อ 1 ได้ ยกเว้นการกระทำดังต่อไปนี้

(1) การใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะโดยการสูบ
(2) การใช้ประโยชน์กับสตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร
(3) การจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปี สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร

3.อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรควบคุมตามข้อ 1 ให้กับผู้ป่วยของตน

4.อนุญาตให้ผู้ป่วยตามข้อ 3 สามารถครอบครอง ขนย้าย ดูแล เก็บรักษา ใช้ประโยชน์ ในปริมาณที่จ่ายให้สำหรับการใช้ประโยชน์เป็นเวลา 30 วัน

5.ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป. อ่านต่อ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565