เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. ที่ แยกปทุมวัน กทม. จากกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง “ราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ” ได้มีการทวีตข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ ระบุใจความเชิญชวนให้มวลชนร่วมกันออกไปเดินขบวนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันเสาร์ที่ 18 มิ.ย.65 โดยได้นัดหมายให้มาพบกันที่แยกปทุมวัน จากนั้นเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเคียงข้างประชาชนหยุดรับใช้เผด็จการ หยุดรับใช้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ล่าสุดเวลา 14.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์การชุมนุม และให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับการชุมนุมที่กลุ่มผู้ชุมนุม จะเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เคียงข้างผู้ชุมนุมนั้น จริงๆ แล้วตำรวจอยู่ข้างประชาชนอยู่แล้ว และสำหรับการชุมนุมที่ผ่านมา ที่ได้มีการใช้ประทัดยักษ์ยิงเข้าใส่ตำรวจ ก็ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว 9 ราย และบางส่วนได้ตัวมาดำเนินคดีแล้ว และการออกมาก่อเหตุความไม่สงบที่ผ่านมา ทำให้เกิดการจราจรติดขัด หลังจากนั้นเราจะดำเนินคดีอยู่แล้วทุกราย ดังนั้น อยากฝากว่าอย่าเสี่ยงอย่าออกมา อย่ามาเป็นเครื่องมือของใคร หากจะเรียกร้องอะไรมันมีช่องทางอยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากการชุมนุมมีการยกระดับ ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติอย่างไรบ้าง พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่มีความอดทนอดกลั้นและเจรจาต่อรองเป็นหลัก รวมถึงได้มีการจัดเตรียมกำลังไว้เพียงพอแล้ว และฝากถึงคนบางกลุ่มที่ได้มีการนำเสนอภาพบางภาพที่สื่อถึงความรุนแรง ว่าอยากฝากผู้ที่ได้รับชมภาพเหล่านั้นว่าให้มีวิจารณญาณในการไตร่ตรองการดูก่อน เช่น ภาพที่มีปรากฏว่าตำรวจใช้โล่มีการผลักดันกัน มันก็มีเหตุผลของมันอยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการขนย้ายชาวต่างด้าวบริเวณชายแดน เข้ามาร่วมม็อบนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า จริงๆ แล้วการขนแรงงานชาวต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ว่าจะมาเพื่อการชุมนุมหรือกระทำการใด หากกระทำโดยผิดกฎหมาย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และต้องดำเนินขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้วแต่ยืนยันว่าพอจะมีการข่าวในเรื่องนี้ แต่ยังหาหลักฐานได้ไม่ชัดเจน ถ้าหากหาความเชื่อมโยง มีมูลอย่างไรก็จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่มีนักสิทธิมนุษยชนมาร่วมสังเกตการณ์การปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่นั้นมีความเห็นอย่างไร พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า พบว่าได้มีการมาสังเกตของกลุ่มบุคคลเหล่านี้หลายครั้งแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร ก็ยินดี ที่จะเป็นตัวประสานงานนำพามาสู่การดูการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าที่ตำรวจ แต่ขอให้ดูในทุกมุมด้วย แต่ตนก็ยังไม่เห็นว่าจะมีนักสิทธิมนุษยชนไปสอบถามความเดือดร้อนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมแต่อย่างใด มีแต่ไปถามหาความกระทบจากตำรวจต่อผู้ที่มาก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้บ้านเมืองยังไม่เอื้ออำนวยให้ออกมาชุมนุมทางการเมืองได้เพราะอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย หากทำผิดก็เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยืนยันว่าตำรวจใช้หลักการเจรจาและการอดทนอดกลั้น ส่วนการเคลื่อนขบวนในวันนี้ อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ เพราะทราบดีว่ามีข้อเรียกร้องอะไร และได้พยายามจำกัดความเสียหายไว้อยู่แล้ว ส่วนสื่อมวลชนนั้น ขอให้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย มีระยะที่เหมาะสม ทางตำรวจเองก็เป็นห่วงสื่อมวลชนเช่นกัน อีกทั้งสื่อมวลชนยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ติดกับแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจ