เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่ม 14 ขุนพล คนของราษฎร ร่วมกับ กลุ่มก็มาดิแก๊ส และกลุ่มเพื่อนกัญปฏิวัติ รวมตัวเตรียมจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” ในเวลา 18.00 น. ของทุกวัน เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาในคดีความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยมีตัวแทนเล่นดนตรีสดเพื่อความผ่อนคลายเป็นระยะๆ

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมภายใต้ชื่อ “กลุ่มประชาชนอิสระ เรียกร้องปล่อยเพื่อนเรา” ประมาณ 50 คน ร่วมกันเดินเท้าและขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรช่องทางการจราจรมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยใช้ถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งขาเข้า แขวง ดินแดง เขตดินแดง กทม. เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อย ที่ตั้งขบวนปิดถนนอยู่บริเวณหน้าปากซอยบุญอยู่ ก่อนกลุ่มผู้ชุมนุมได้มาหยุดรวมตัวกันที่บริเวณสี่แยกดินแดง เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งเพื่อปิดถนนฝั่งขาเข้า เป็นเหตุให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่สามารถเคลื่อนขบวนไปได้

โดยมีตัวแทนบางรายได้ยืนเผชิญหน้าชูป้าย อาทิ หยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน ,ปล่อยเพื่อนเรา ,ดำรงความยุติธรรม และยกเลิก ม.112 พร้อมเปล่งเสียตะโกน “ปิดถนนทำไม ชาวบ้านเขาเดือดร้อน” จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ยุติการชุมนุม พร้อมชูป้ายประกาศให้ยุติการชุมนุม ก่อนทางเจ้าหน้าที่จะเปิดเส้นทางการจราจรตามปกติ ส่วนผู้ชุมนุมยังคงกระจายกำลังตามสถานที่ดังกล่าว โดยไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงแม้แต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศผ่านสังคมออนไลน์ว่าจะจัดกิจกรรมในเวลา 16.00 น. ซึ่งเป็นกิจกรรมของกลุ่มราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ จัดกิจกรรม “CAR MOB ไปบ้านประยุทธ์” ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดี แต่เมื่อถึงเวลาตามกำหนดการณ์กลับไม่มีผู้ชุมนุมแม้แต่อย่างใด ก่อนทางเพจ ประชาชนปฏิรูป – PEOPLE REFORM จะขึ้นโพสต์ข้อความระบุว่า “พรี่ๆ ตำหนวดที่อยู่แยกสามเหลี่ยมดินแดง พรี่ๆ ไม่คิดว่าหนูจะแกงพี่หรอค๊า ขนาดอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยังโดนแกงเลยคร่ะ แง่งๆ #ม็อบ 19 มิถุนา 65”

ส่วนบริเวณใต้ทางด่วน ภายหลังทวิตเตอร์ “ประชาชนปฏิรูป—PEOPLE REFORM” นัดหมาย ประกาศยกระดับการชุมนุมคาร์ม็อบ โดยจะรวมพลมวลชนเพื่อตั้งขบวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะร่วมกันเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ บ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวมีการทวีตข้อความว่าให้มวลชนเคลื่อนพลไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแทน เนื่องจากต้องการหลอกล่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเสียเปล่า จากนั้นกลุ่มมวลชนและจักรยานยนต์บางส่วนได้ร่วมกันเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปที่สามเหลี่ยมดินแดง พร้อมกับบีบแตรรถ และตะโกน “ประยุทธ์ออกไป”ตลอดเส้นทาง

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย ตรึงกำลังปิดช่องทางการจราจรตลอดถนนทั้งสองฝั่ง ทั้งทางถนนวิภาวดีขาออก และขาเข้ามุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมลงมาประท้วงบนท้องถนน จนเกือบมีการปะทะกันเกิดขึ้น ระหว่างผู้ชุมนุมบางส่วนและเจ้าหน้าที่ ถัดมาเมื่อมีการเจรจาเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดช่องทางการจราจรกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และผู้ชุมนุมได้ออกจากท้องถนนเข้าข้างทาง ยานพาหนะต่างๆสามารถกลับมาจราจรได้

รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจยังประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง และชูไวนิล ระบุใจความ “คำประกาศเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 44 ข้อ 2 ลงวันที่ 1 พ.ค.2565 ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง (ฉบับที่ 14) ข้อ 2 และ 3 ลงวันที่ 1 พ.ย.2564 ห้ามีให้มีการชุมนุมหรือทำกิจกรรม ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครจึงขอให้ผู้ชุมนุมทุกท่าน เลิกการชุมนุมแต่เวลานี้”

ล่าสุดเวลา 17.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหล่าบรรดาผู้ชุมนุมได้ย้ายมานั่งบริเวณริมขอบทาง ด้านหน้าอาคารก่อสร้างและบริเวณด้านหน้าอาคารเพชราวุธ ตรงข้าม บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) มีการชูป้ายแสดงสัญลักษณ์ และข้อความ อาทิ หยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชน ปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก112 เป็นต้น และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยยังไม่มีการเคลื่อนไหวของมวลชนอิสระ หรือกลุ่มทะลุแก๊ซแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. ที่ทางบาทวิถี บริเวณแยกดินแดง กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวยืนชู 3 นิ้ว พร้อมร่วมกันเปล่งเสียงตะโกน ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์ คืนสิทธิการประกันตัว ยกเลิก 112 รวมทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนตัวแทนจะประกาศยุติการชุมนุมในทันที โดยไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือเผชิญหน้าปะทะกับทางเจ้าหน้าที่แม้แต่อย่างใด.