เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. ณ ร้านอาหารเพลิน ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการขนส่งรถร่วม บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เพื่อปรึกษาหารือ หาทางออกและกำหนดมาตรการเร่งรัดภาครัฐให้อนุมัติปรับอัตราค่าโดยสารโดยเร็ว ก่อนที่สถานการณ์การประกอบธุรกิจเดินรถจะย่ำแย่เลวร้ายไปกว่านี้ โดยมติที่ประชุมต่างเห็นพ้องกันว่าไม่สามารถประกอบการเดินรถได้ตามปกติ เพราะต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึงเที่ยวละกว่า 1,400 บาทในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 1,600 บาทในสัปดาห์นี้ ซึ่งแนวโน้มน้ำมันเชื้อเพลิงยังจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ จะมีราคาอยู่ที่ 38 บาทต่อลิตร

แต่เพื่อประคับประคองธุรกิจไม่ให้ต้องแบกภาระจนต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการขนส่งและ บริษัทฯ รถร่วม มีมติกำหนดให้ลดเที่ยววิ่งลง 80% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 เป็นต้นไป เช่น มีรถโดยสาร 100 เที่ยววิ่งต่อวัน จะลดเหลือ 20 เที่ยววิ่งต่อวัน ขณะนี้มีผู้ประกอบการขนส่งแจ้งความประสงค์จะปรับลดเที่ยววิ่งครั้งนี้ต่อเนื่อง เบื้องต้นแจ้งมาแล้ว 27 บริษัท จำนวน 143 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง 2.บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด 32 เส้นทาง 3.บริษัท กิตติสุนทร จำกัด 5 เส้นทาง 4.บริษัท จักพงษ์ทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง 5.บริษัท ลาดหลุมแก้วขนส่ง 2 เส้นทาง 6.บริษัท ชินวรเดินรถขนส่ง 1 เส้นทาง 7.บริษัท 407 พัฒนา จำกัด 9 เส้นทาง 8.บริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ จำกัด 5 เส้นทาง 9.บริษัท ส.วิริยะทรานสปอร์ต จำกัด 2 เส้นทาง 10.บริษัท ไทยสงวนทัวร์ จำกัด 3 เส้นทาง 11.บริษัท ชัยนาททัวร์ จำกัด 2 เส้นทาง 12.บริษัท ชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ จำกัด 16 เส้นทาง

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า 13.บริษัท ปักธงชัยร่วมใจเดินรถ จำกัด 2 เส้นทาง 14.บริษัท นครชัยทัวร์ จำกัด 4 เส้นทาง 15.บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด 1 เส้นทาง 16.บริษัท นครชัย 21 จำกัด 1 เส้นทาง 17.บริษัท วิศวกรเสนา จำกัด 3 เส้นทาง 18.บริษัท วัชรินทร์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง 19.บริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง 20.บริษัท ราชสีห์ทัวร์ จำกัด 1 เส้นทาง 21.บริษัท โชคชัยเดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง 22.บริษัท นครอรัญ จำกัด 1 เส้นทาง 23.บริษัท ครบุรี เดินรถ จำกัด 1 เส้นทาง 24.ราชสีมา เดินรถ จำกัด 1เส้นทาง 25.โพนทวีชัย จำกัด 5 เส้นทาง 26.บริษัท เทพอู่ทองขนส่ง จำกัด 5 เส้นทาง และ 27.บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด 29 เส้นทาง ทั้งนี้เพื่อลดกระทบการเดินทางสามารถตรวจสอบเที่ยววิ่งในแต่ละวันได้ทางเว็บไซต์ของทุกบริษัท หลังจากนั้นหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐคงต้องหยุดวิ่งทุกเส้นทางต่อไป

ขณะเดียวกัน หากได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ได้เสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสารให้เป็นไปตามโครงสร้างของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างราคาน้ำในดีเซลปัจจุบันอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร จะขอปรับขึ้นเป็น 59 สตางค์ต่อ กม. จากเดิมที่เก็บอยู่ที่ 53 สตางค์ต่อ กม. หรือปรับขึ้น 6 สตางค์ ต่อ กม.

“การขอขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากผู้ประกอบการเริ่มแบกภาระต้นทุนค่าน้ำมันไม่ไหวแล้ว และข้อเสนอของรัฐที่มีแนวทางการช่วยเหลือ ในลักษณะคูปองส่วนลดราคาน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตร มองว่าไม่ครอบคลุมกับราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นสูงอยู่ในขณะนี้ จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารมากกว่า แต่ถ้าราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลง ก็จะมีการปรับราคาค่าโดยสารลง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนต่อไป” นายพิเชษฐ์ กล่าว

ส่วนสถานการณ์รถโดยสารในปัจจุบันมีทั้งหมด 20,000 กว่าคันทั่วประเทศ ซึ่งจำนวนนี้ได้หยุดเดินรถแล้วประมาณ 40% เพราะทนแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้บริการตอนนี้อยู่ที่ 40-50% หรือเฉลี่ยประมาณ 17-18 คนต่อคัน โดยใช้บริการเฉพาะช่วงเช้า-เย็นเท่านั้น