เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่ SITTRA LAW FIRM อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ชั้น 24 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากกรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กบัญชีส่วนตัว ระบุถึงนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ภายหลังทราบว่า นายอัจฉริยะ กำลังเผชิญกับหมายเรียกที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกจำนวนมาก รวมถึงหากนายอัจฉริยะมีหลักฐานคลิปมีดกรีดขา หลักฐานเกี่ยวกับการฆาตกรรมจริง ทนายตั้มก็พร้อมพักเรื่องราวความบาดหมาง และเข้าไปช่วยนายอัจฉริยะอย่างเต็มที่ ตามที่มีการรายงานข่าวมาก่อนหน้าแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายตั้มได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนได้เห็นข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีนายอัจฉริยะในหลายๆ คดีติดต่อกัน ตนรู้สึกว่า ถ้าการออกมาทำเพื่อสังคม แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำแบบนี้ตนก็ไม่เห็นด้วย และแม้ตนกับนายอัจฉริยะจะมีปัญหากันตั้งแต่ปี 61 รวมถึงเรื่องฟ้องร้องต่างๆ วันนี้ตนจะวางทุกอย่างลง แต่มีเงื่อนไขเดียวคือ อยากให้นายอัจฉริยะ นำหลักฐานที่ระบุว่ามีการใช้มีดกรีดขานั้น เอามาเปิดเผย หรือนำมาให้ตนก็ได้ หากนายอัจฉริยะไม่กล้าเปิดเอง หรือกังวลจะมีปัญหาตามมา ตนพร้อมที่จะเปิดให้

ทนายตั้ม เผยอีกว่า ส่วนเรื่องที่ทนายเดชาหรือใครที่ระบุว่า จะมีการดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะอีกเป็น 10 คดี ตนมองว่ามันเกินที่จะรับไหว ถึงแม้นายอัจฉริยะจะมีทนายความ แต่ก็คงไม่เพียงพอ และตนพร้อมจะเป็นทนายความเพื่อช่วยเหลือนายอัจฉริยะ เพราะถือว่าเป็นมิตรเก่า ติดแค่เงื่อนไขเดียวคือนายอัจฉริยะต้องพิสูจน์ความจริงให้ตนในเรื่องที่เคยไลฟ์ว่ามีหลักฐานเด็ด คลิปคนบนเรือเอามีดกรีดขาคุณแตงโมจนหมดตัวแล้วโยนลงไป ถ้าตนมีหลักฐานตรงนี้จริงตนมั่นใจว่ามันก็จะสามารถพลิกคดีได้ ตอนนี้ทราบเพียงแค่ว่านายอัจฉริยะมีหลักฐานแค่คนเดียว แต่จะไม่นำไปใช้แล้วเพราะว่าเริ่มทะเลาะกับคุณแม่ แต่ตนก็อยากให้นายอัจฉริยะคิดถึงเจตนารมณ์ในช่วงแรกที่เข้ามาช่วยเหลือในคดีนี้ เพื่อที่จะคืนความยุติธรรมให้แตงโม

ส่วนคุณแม่จะเป็นอย่างไร ขอให้ไม่ต้องไปสนใจ เอาหลักฐานที่มี เอาออกมาเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้ ถ้าสาสาธารณชนรับรู้ วันเดียวจบเลย พร้อมย้ำว่า ถ้านายอัจฉริยะกลัวกฎหมาย ตนพร้อมเปิดให้ พร้อมเอาตัวไปเสี่ยงให้แทน พร้อมพลีชีพ เพราะตนอยากให้น้องแตงโมได้รับความยุติธรรม เพียงแค่ตนไม่มีคลิป และก็พร้อมจะให้ทนายความของ SITTRA LAW FIRM เข้ามาช่วยเหลือในคดีนี้ด้วย แต่การที่ตนจะรับทำคดีให้ใครนั้น ขอตรวจสอบหลักฐานก่อน ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่จะถึง ตนจะให้พี่อาคมโทรศัพท์ไปหานายอัจฉริยะ เพื่อนัดหมายให้นายอัจฉริยะมาที่สำนักงานตน เวลาประมาณ 15.00 น. แล้วก็จะขอดูว่าเป็นคลิปมีดกรีดขาจริงหรือไม่ เกี่ยวกับคนบนเรือจริงหรือไม่ แต่อาจจะยังไม่ได้ให้สื่อมวลชนได้ดู

ทนายตั้ม เผยอีกว่า ส่วนตัวตนเชื่อว่านายอัจฉริยะมีคลิปจริง เพราะถ้าไม่มีคลิปจริง เขาคงไม่กล้าไปพูดหรือไปไลฟ์สดท้าทายตำรวจขนาดนี้ และคงไม่โกหกขนาดนี้ ฝากบอกนายอัจฉริยะว่าอย่าไปคิดน้อยเนื้อต่ำใจคุณแม่ ให้คิดว่าทำเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโม อีกทั้งตนก็ไม่สบายใจกับการที่ตำรวจไปดำเนินคดีกับเขา ซึ่งเขาคือคนที่มีหลักฐาน แล้วเขาจะใช้หลักฐานนี้ในชั้นศาล เหตุใดตำรวจจึงไปดำเนินคดีกับเขาเยอะๆ แบบนี้ เหมือนกับไปรังแกเขาหรือไม่ ถ้ามารังแกคนที่จะมาช่วยเหลือสังคมแบบนี้ ตนก็ไม่เห็นด้วย สำหรับในส่วนการที่นายอัจฉริยะจะฟ้องร้องหมิ่นประมาทคุณแม่ภนิดา ตนจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของทนายเดชา ตนต้องบอกว่าในเรื่องนี้ คงขอขัดใจกับทนายเดชา ถ้าเกิดตนกลับไปช่วยเหลือนายอัจฉริยะ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้มีข้อสัญญาว่าตนจะไม่สามารถไปยุ่งกับนายอัจฉริยะได้ การที่ตนดีกับทนายเดชา ก็เป็นในส่วนของทนายเดชา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการเข้ามาช่วยในครั้งนี้ เกรงว่าคุณแม่จะไม่พอใจหรือไม่ ทนายตั้ม ย้ำชัดว่า ตนไม่เคยสนใจคุณแม่ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว คุณแม่จะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ดังนั้น การที่คุณแม่ออกมาพูดว่านายอัจฉริยะพูดไม่จริง ไม่มีคลิปจริง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าคุณแม่พูดจริงหรือพูดโกหก ตนจึงต้องดูว่านายอัจฉริยะมีคลิปจริงหรือไม่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่า ตอนนี้เห็นด้วยกับนายอัจฉริยะแล้วใช่หรือไม่ ว่าคดีของแตงโมเป็นการฆาตกรรมมากกว่าทนายตั้ม กล่าวว่า ตนจะทำอะไรต้องมีพยานหลักฐานก่อน ขอดูคลิปตามที่นายอัจฉริยะพูดก่อน ถ้าตนเห็นหลักฐานตรงนี้ ก็จะมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลย