เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนพร้อมอาวุธได้ทำการปล้นรถเก็บขยะของ อบต.ลางา อ.มายอ จ.ปัตตานี แล้วใช้เชือกมัดพนักงานทั้ง 4 คนก่อนที่จะนำรถไปทำการซุกระเบิด น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม จากนั้นคนร้ายได้ขับมาจอดทิ้งไว้ บริเวณด้านข้างป้อมจุดตรวจหน่วยบริการประชาชนจันทรักษ์ ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส หมู่ 1 บ้านปาลัส ต.ควน อ.ปะนาเระ และอยู่ติดกับปั๊ม ปตท.ปาลัส และ อบต.ควน หลังจากที่คนร้ายได้จอดรถแล้วจึงวิ่งขึ้นรถ จยย. ซึ่งมีคนร้ายอีกคนขับมาจอดรอรับพาหลบหนีไป ประมาณ 10 นาที คนร้ายได้ทำการกดชนวนจนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ ส.ต.ท.ณัฐกิตต์ เชี่ยวชาญ ซึ่งอยู่ภายอาคารได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่า กรณีเหตุระเบิดดังกล่าว ได้มีการปล่อยภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ โดยจากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า 21.18 น. คนร้าย 1 รายได้ขับรถขนขยะ ขับมาเส้นทางสายหลักทางหลวงที่ 42 ที่มุ่งหน้าไปนราธิวาส เมื่อคนร้ายขับถึงจุดเกิดเหตุ จึงเลี้ยวรถเข้าซอยข้างด่านตรวจ ติดกับปั๊มน้ำมัน ปตท. ขับไปประมาน30 เมตร ก่อนจอดรถริมทาง โดยขณะที่ขับรถขนขยะนั้นพบว่า ยังมีคนร้ายอีก 1 ราย ได้ขี่รถ จยย.มาประกบหลัง ก่อนจะรับตัว แล้วหลบหนีไป กระทั่งเวลาผ่านไป 1 นาทีเศษ เวลา 21.20 น คนร้ายได้กดชนวนระเบิด เกิดระเบิดขึ้นสนั่นหวั่นไหว และช่วงเวลาดังกล่าว มีชาวบ้านขับผ่านมาพอดี แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยพบว่าแรงระเบิด มีรัศมีทำลายเป็นวงกว้างประมาน 100 เมตร และสะเก็ดระเบิดทำงานในรูปแบบด้านข้าง ไม่ได้ออกมาทางด้านหน้าหรือด้านรถหลังแต่อย่างไร จึงทำให้ประชาชนที่ขับมานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก

นอกจากนี้ ชาวบ้านเล่าว่า คืนวันเกิดเหตุโชคดีที่ไม่มีคนพลุกพล่าน ต่างจากคืนก่อนจะมีคนมาใช้บริการปั๊มนํ้ามันกันเยอะ โดยร้านค้าต่างๆ ภายในปั๊มหลายปาก ต่างประณามคนร้ายที่ได้ก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้ เศรษฐกิจก็แย่อยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุการณ์ยังนี้ ก็ยิ่งทำให้คนไม่กล้าออกมา

โจรปล้นรถเก็บขยะยัดระเบิด 50 กก. ตูมสนั่นริมถนนปัตตานี ตร.เจ็บ 1 ราย

สำหรับระเบิดคาร์บอมบ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงสุดในรอบหลายปี ที่สร้างความเสียหายด้านทรัพย์สินเป็นวงกว้าง โดยคาร์บอมบ์ลูกสุดท้ายที่เกิดขึ้นใน จ.ปัตตานี คือ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2560 โดยเกิดคาร์บอมบ์ในห้างบิ๊กซี ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนับ 50 ราย และสร้างความเสียหายด้านทรัพย์สินเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับความคืบหน้าสุดเจ้าหน้าอยู่ระหว่างการสอบสวน และเก็บลายนิ้วมือต่างๆ โดยเฉพาะลายนิ้วมือที่ติดกับเชือก ที่คนร้ายใช้มัดพนักงาน 4 คนไว้ โดยได้เก็บเป็นหลักฐาน และยังคงมีการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งหน่วยความมั่นคงเชื่อว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่อยู่ปฏิบัติการในพื้นที่ อ.ยะรัง และ อ.มายอ และอ.ปะนาเระ

เจ้าหน้าความมั่นยังคงไล่ตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่คนร้ายได้ใช้เส้นทางในการหลบหนี เชื่อว่าคงจับผู้ก่อเหตุได้ในไม่ช้า ส่วนพนักงานประจำ 4 คน เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวน พบว่า 1 ใน 4 คน มีคำให้การที่น่าสงสัย เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งนี้หน่วยความมั่นคงสั่งกำชับไปยังด่านตรวจทุกด่านในจังหวัดปัตตานีให้มีการตรวจรถยนต์ รถ จยย. และตัวบุคคลอย่างเข้มงวด หากพบผู้ต้องสงสัย หรือมีรายชื่ออยู่ในสารบบคุมตัว และให้รายงานผู้บังคับบัญชาทันที

ขณะที่ พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/เดินทางลงพื้นที่ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกทบทวนโครงการราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ./อรม.) กองพันเมืองปัตตานีที่ 1 ณ กองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกให้มีความรอบรู้ในเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่ ยุทธวิธีฝ่ายตรงข้าม การป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเป้าหมาย และการแก้ไขปัญหากรณีถูกรอบทำร้าย สามารถใช้อาวุธประจำกายได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เมื่อมีเหตุ นำความรู้ที่ได้รับไปบูรณาการประยุกต์ ขยายผล และรับทราบถึงแผนการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านของตนเอง เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน.