ไหนๆ ก็ถือเป็นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนัดสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้ ฝ่ายค้านจึงจัดเต็มแบบชุดใหญ่ไฟกะพริบ  “ลับ-ลวง-พราง” ให้ฝ่ายรัฐบาลมึนๆ งงๆ กั๊กกันจนวินาทีสุดท้าย เพราะต้องถือว่าศึกซักฟอกครั้งนี้เป็น “สงครามครั้งสุดท้าย” ขยี้ในเวทีสภา ที่ฝ่ายค้านเปิดเกมเชือด ไม่ได้หวังเสียงยกมือในสภา แต่หวังไปที่เวทีนอกสภา อย่างการยื่น ป.ป.ช. เชือดลงดาบซ้ำสอง และขยายผลไปเปิดแผลในศึกเลือกตั้ง ปี 66 เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่จัดเต็มบรรดา กล่องดวงใจ ของแต่ละพรรค เอาแค่ ขุมอำนาจทหารเฒ่า “3 ป.” ที่อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่การยึดอำนาจรัฐประหาร ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ผ่านไป 8 ปี ยังอยู่กันครบทั้ง “พี่ใหญ่-พี่รอง-น้องเล็ก” และมีแนวโน้มที่จะต่อยอดอำนาจเป็นเสือนอนกินต่ออีก 1 สมัย

 ขณะที่  “นั่งร้าน” ใน 3 พรรคร่วมรัฐบาล “พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์” โดนกันถ้วนหน้า “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี  รมช.มหาดไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง”

ที่ตอนนี้ทั้ง “บิ๊กตู่” และอีก 10 รัฐมนตรี ก็เก็งข้อสอบ เพื่อให้ผ่านศึกซักฟอกด่านหินครั้งสุดท้ายไปให้ได้ ไม่ถูกเชือดคาเวทีสภาผู้แทนราษฎร

ล่าสุดสัญญาณจาก “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” พรรคภูมิใจไทย ชัดขึ้นสำหรับบรรดา ส.ส.ฝากเลี้ยง ของจริง ที่ต้องแสดงตัวในการลงมติไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ยกมือหนุน “อนุทิน-ศักดิ์สยาม”  เปิดหน้าเต็มตัวในการก้าวเข้าสู่บ้านภูมิใจไทย ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะมีเสียงมากกว่า “7  ส.ส.งูเห่า” ที่โหวตสวนมติพรรคเพื่อไทย ในการรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566  วาระแรก ที่ผ่านมา ที่ตอนนี้แว่วๆ ว่า มีเยอะกว่าแน่นอน

และที่ต้องเสียวที่สุดคงหนีไม่พ้น “2 ป.” คือ บิ๊กตู่ กับ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ 3 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ “สันติ-ชัยวุฒิ-สุชาติ” ก็ต้องไม่ประมาทกับ “เกมซ่อมแต้ม” ที่วันนี้ “ผู้กองคนดัง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ตัวแปรสำคัญของเสียง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่ตอนนี้มี ส.ส.ในมือไม่ต่ำกว่า 32 คน และประกาศชัดว่า งานนี้จะขอดูข้อมูล ข้อเท็จจริงรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเป็นรายบุคคลเท่านั้น ใครชี้แจงเคลียร์ก็ยกมือให้ ส่วนไม่เคลียร์ก็ไม่ให้เสียงและวิปรัฐบาลไม่มีผลที่จะมาสั่งให้ทำตามมติวิปรัฐบาล

แถมล่าสุดยังมีศึก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลระหว่าง “พลังประชารัฐ” กับ “ประชาธิปัตย์” ในการประกาศซักฟอกกันเอง ระหว่างกระทรวงพลังงาน กับกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ

งานนี้อาจมีข้อหาหมั่นไส้ จาก “เสียงซ่อนแต้ม” ที่อาจต้องใช้ “กล้วย” หลายไร่ เพื่อหนีคะแนนบ๊วยโหล่!!.