จากกรณีน้ำมันและก๊าซหุงต้มปรับราคาขึ้น ทำให้สินค้าอุปโภค บริโภคหลายอย่างต้องปรับราคาตาม ขณะที่ธุรกิจบางอย่างทนไม่ไหวต้องปิดกิจการ หรือพักกิจการไว้ก่อน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายมัน โคฮุด อายุ 63 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายหีบศพ และรับจัดงานพิธีศพ ตั้งอยู่เลขที่ 225 หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้โลงศพขยับราคาขึ้นมาจากที่ราคาน้ำมันแพง เพราะมาจากค่าใช้จ่ายค่าขนส่งเดินทาง ไม้เว้นแม้ค่าจ้างคนฉีดยาศพให้กับผู้เสียชีวิตก็ยังปรับราคาขึ้นอีก จากเดิมฉีดครั้งละ 1,400 บาท ตอนนี้ฉีดครั้งละ 1,600 บาท เพราะคนฉีดต้องขับรถใช้น้ำมันเดินทางไกลในการฉีดแต่ละศพ ส่วนโลงศพปรับราคาขึ้นมาโลงละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้ามาจากโรงงงาน เดิมโลงศพราคาถูกที่สุดอยู่ที่ 4,500 บาท ก็ต้องปรับขึ้นมาเป็น 5,500 บาท ส่วนที่ราคาแพงสุด 9,000 บาท ก็ต้องขายในราคา 10,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีวัสดุอื่นๆ อย่าง โกศ ดอกไม้จันทน์ ใบชา โดยเฉพาะการบูรที่ใส่ไว้กับศพจากกิโลกรัมละ 400 บาท ตอนนี้ปรับราคามาเป็นกิโลกรัมละเป็น 1,000 บาทแล้ว ส่วนดอกไม้จันทน์เดิมเคยขายดอกละ 90 สตางค์ ตอนนี้ขายดอกละ 1.50 บาท ถ่านที่เผาศพก็ขึ้นราคามาอีกกระสอบละเกือบ 200 บาท เพราะถ่านเริ่มหายาก เนื่องจากประชาชนหันมาใช้ถ่านกันมากขึ้น ทำให้การขายถ่านถือโอกาสขยับราคาขึ้นมาด้วย จากเดิมเคยขายกระสอบละ 350 บาท ตอนนี้กระสอบละ 400-500 บาท

สำหรับที่ร้านของตน หากมีชาวบ้านเสียชีวิตต้องการโลงศพ ดอกไม้หน้าศพ ทั้งเป็นดอกไม้สด และและดอกไม้แห้ง วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งพิธี โดยเข็นศพให้ฟรี หากใครจะช่วยค่าน้ำมันก็ยินดี จากโรงพยาบาลไปบ้าน ถ้าคนตายไหนยากจนไม่มีเงิน ยินดีร่วมบริจาคให้ทำด้วยใจกุศล โดยจะขายโลงศพไปด้วย และร่วมบริจาคไปด้วย ซึ่งจะมีทีมงานจัดพิธีให้จนถึงวันฌาปนกิจศพเสร็จเรียบร้อย มองว่าเหตุที่น้ำมันแพงส่งผลกระทบไปถึงคนตาย ทำให้ทุกอย่างปรับขึ้นราคาตามไปหมด เดือดร้อนกันถ้วนหน้า ซึ่งหากน้ำมันปรับลดราคา ก็อาจปรับราคาลดลงตามมาได้เช่นกัน.