เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่สำนักงานกฎหมาย ษิทราลอว์เฟิร์ม นายชนธัญ เวโรจนนันท์ พร้อมครอบครัวร้องเรียนกับ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม หลังถูกตัวแทนบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ร่วมกับตำรวจโรงพักแห่งหนึ่ง ที่เชื่อว่าได้ปลอมเอกสารทำเรื่องกู้ยืมกรมธรรม์ประกันภัยของผู้เสียหายเป็นเงินกว่า 1.7 ล้านบาท

โดย ทนายษิทรา กล่าวว่า ผู้เสียหายมาร้องเรียนว่า ถูกอดีตตัวแทนประกันชีวิตและตำรวจหลอกเอาเงิน ซึ่งครอบครัวผู้เสียหายได้ทำประกันกับบริษัทหนึ่งมาหลายปี และถูกโกงมาแล้วเมื่อ 4-5 ปี ก่อนเรื่องจะจบไป แต่ล่าสุดกลับมีเงินโอนเข้ามาในบัญชี 1.7 ล้านบาท และจะมีอีก 1.2 ล้านบาท เข้าบัญชีภรรยา ก่อนจะมีตัวแทนประกันรายนี้ ติดต่อเข้ามา อ้างว่าเป็นเงินที่ผู้เสียหายเคยลงทุนไว้ แต่เป็นเงินในส่วนของตัวแทน ผู้เสียหายจึงถอนไปให้ เนื่องจากมีตำรวจ สน.ทองหล่อ ติดต่อเข้ามาข่มขู่ว่าอาจจะโดนคดียักยอกทรัพย์ จึงสร้างความกังวลให้ผู้เสียหาย จนต้องไปโอนเงินต่อหน้าตำรวจนายนี้จำนวน 1.7 ล้านบาท ส่วนของภรรยาไม่ได้โอนไป และไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ นอกจากนี้ เมื่อผู้เสียหายไปตรวจสอบกับธนาคาร ก็ทราบว่าเป็นเงินจากบริษัทประกันจริง โดยตรวจสอบพบเป็นการกู้กรมธรรม์โดยที่ตนเองไม่ทราบ

ทนายษิทรา กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสอบทางบริษัทประกัน พบว่าผู้เสียหายได้สมัครแอพพลิเคชั่นและลงทะเบียนด้วยโทรศัพท์มือถือ กระทั่งเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีโทรศัพท์เข้ามาหาผู้เสียหาย ระบุว่ามีการแก้ไขข้อมูลส่วนตัว และเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล มีการอนุมัติวงเงินกรมธรรม์ 3 ครั้ง เป็นเงิน 1.7 ล้านบาท จึงเชื่อว่าต้องเป็นคนในที่จะทราบข้อมูลนี้

ขณะที่ฝ่ายตำรวจมีเพียงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่มีการดำเนินคดี มองว่าอาจมีการนัดแนะกับคนที่หลอกลวงผู้เสียหายหรือไม่ จากนี้ต้องขอให้ ผบช.น.ตรวจสอบตำรวจนายนี้ ซึ่งความผิดดังกล่าวเข้าข่ายเรื่องร่วมกันฉ้อโกงและการปลอมแปลงเอกสาร 
นายชนธัญ กล่าวว่า ได้ทำประกันกับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตนมองว่าน่าเชื่อถือมาก แต่แล้วกรมธรรม์ถูกกู้ไปง่ายๆ เมื่อขอเอกสารไปตั้งแต่ต้นเดือน ตอนนี้ยังไม่ได้ พอทวงถามก็ได้แต่ข้อมูลเดิมๆ เรื่องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและการกู้ เหตุใดบริษัทจึงปล่อยเงินกู้ง่ายๆ ภายใน 2 นาที โดยที่ตนไม่ทราบ อีกทั้งตัวแทนประกันก็ยังแนะนำให้โอนเงินคืนกับตัวเองไปก่อน และตำรวจก็ยังมาคอยติดตามตลอดเช่นนี้ ขณะที่ตำรวจ สภ.หนึ่ง ระบุว่า ตนเองไม่ใช่ผู้เสียหาย ต้องให้บริษัทประกันมาแจ้งความ ซึ่งตนติดต่อกับตัวแทนประกันรายนี้เมื่อเดือน ธ.ค. 2563 และไม่ได้ติดต่ออีกเลย