เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าจากรณีเคยเกิดปัญหาขึ้นในทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากตำรวจทำเนียบ หรือตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (บก.4 บก.ส.3) มีปัญหาไม่ได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงในการปฏิบัติหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาล ในการดูแลความเรียบร้อย ขณะที่มีการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊สปิดล้อมทำเนียบไปแล้วนั้น ล่าสุดเกิดปัญหากับข้าราชการชั้นผู้น้อยและลูกจ้างสังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ประมาณ 50 คน ร้องว่าไม่ได้รับเงินล่วงเวลาปปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการมาตั้งแต่เดือน เม.ย.65 เฉลี่ยต้องได้รับเงินคนละ 3,000-5,000 บาทต่อเดือน ทั้งที่ปฏิบัติหน้าที่นอกเวลาราชการเป็นส่วนใหญ่ เพื่อคอยประสานรับเรื่องร้องเรียนในศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และกระทรวงต่างๆ ที่ต้องดูแลงานด้านมวลชน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ข้าราชการชั้นผู้น้อยและลูกจ้างกลุ่มดังกล่าวนั้น ตามปกติมีเงินเดือนน้อย และยังจะมีการปรับลดจำนวนผู้มาปฏิบัติหน้าที่ลดลงอีก ดังนั้นภารกิจทุกอย่างต้องช่วยกัน ในขณะที่จำนวนคนทำงานมีจำกัด และยังมีข้อมูลว่าในปีงบประมาณ 66 จะถูกปรับลดเงินค่าล่วงเวลาปฏิบัติงานอีก ส่งผลกระทบถึงการดำรงชีพเป็นอย่างมาก

ต่อมานายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องแล้ว และได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง และแก้ปัญหาโดยด่วนซึ่งฝ่ายงบประมาณชี้แจงว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้รัฐบาลมีนโยบายให้ปฏิบัติงานที่บ้าน (work from home) จึงตั้งงบประมาณค่าล่วงเวลาไว้น้อยและถูกปรับลดลง ส่งผลให้หลายส่วนงานโดยเฉพาะหน่วยงานที่ต้องปฏิบัติงานลงพื้นที่ได้รับผลกระทบเรื่องค่าล่วงเวลา จากงบประมาณที่มีจำกัด เนื่องจากสถานการณ์ดีขึ้น มีการลงพื้นที่เร็วกว่าที่กำหนด และมีประชาชนมายื่นข้อร้องเรียนต่างๆ ยิ่งส่งผลทำให้ งบประมาณค่าล่วงเวลาสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่ไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ฝ่ายงบประมาณเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว โดยจะเร่งเบิกจ่ายงบทดแทนได้โดยเร็วพร้อมทั้งกำชับให้หัวหน้างานดูแลผู้ปฏิบัติงานให้ดีและชี้แจงทำความเข้าใจ อย่าให้ขาดขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่.