เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สืบเนื่องจากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ (บุตรสาว) รมช.ศึกษาธิการ กับพวกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินรวม 10 คน ฐานออกโฉนดหลายแปลงบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขต อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่ โดยนายสุนทรและนางกนกวรรณ ได้เข้ามอบตัวกับอัยการ และถูกนำตัวไปส่งศาลเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขต อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ยังมีกรณีบุกรุกออกโฉนดที่ดินทับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางด้าน อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เหตุเกิดเมื่อปี 55 จำนวน 22 แปลง เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ โดยเรื่องนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเจ้าของเรื่อง และได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 149/2555 พร้อมกับมีการส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. และสอบสวนเรื่อยมา

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีคดีที่ 2 ของนายสุนทรและพวกรวม 12 ราย จากการบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใน อ.ประจันตคาม จำนวน 22 แปลง ว่าในส่วนของความคืบหน้าของคดีนี้ ปัจจุบันขั้นตอนอยู่ที่อัยการสูงสุด เพราะทางดีเอสไอได้มีการทำความเห็นแย้ง เห็นควรให้สั่งฟ้อง ตอนนี้จึงอยู่ในขั้นตอนที่อัยการสูงสุดจะมีการพิจารณาว่าจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่

สำหรับกรอบระยะเวลาที่อัยการสูงสุดจะมีการสั่งฟ้องนั้น อธิบดีดีเอสไอระบุว่า เรื่องกรอบระยะเวลาตนไม่ทราบ เพราะเป็นในส่วนของอัยการสูงสุด แต่คงจะมีการดำเนินการจนกว่าจะถึงช่วงขาดอายุความ

ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องจริง เนื่องจากดีเอสไอได้ส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ช. ได้มีการส่งกลับมาให้ทางเราดำเนินการต่อ ดีเอสไอจึงมีการสั่งฟ้องบุคคลทั้ง 12 รายไปหมดแล้ว ส่วนการจะนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินดีได้หรือไม่นั้น เมื่อมีการสั่งฟ้องไปแล้ว ผู้ต้องหาคงไม่หลบหนีไปไหน เนื่องจากคดีล่าสุด ก็มีการปรากฏตัวของผู้ต้องหาแล้ว