เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า การมอบหมายสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วางแผนรับมือวิกฤติพลังงาน คือการซ้ำเติมชะตากรรม และทำลายความหวังของประชาชนอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ใช่บทบาทหลักที่ สมช. จะทำหน้าที่

ถ้าเป็นรัฐบาลอื่น นายกฯ ต้องออกโรงเองกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ หรืออย่างน้อยก็รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบ แต่รัฐบาลนี้ใช้ สมช.ในทุกวิกฤติ

โควิด-19 จนถึงราคาน้ำมัน ทุกเรื่องถูกกำหนดเป็นปัญหาความมั่นคง เพื่อให้ สมช.เข้าทำหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งถูกอธิบายตอนแต่งตั้งว่า เป็นคนจากสายพลังงานเชี่ยวชาญเรื่องนี้ กลับมีบทบาทรองในการวางแผนรับมือวิกฤติระยะยาว

นอกจากปัญหาราคาน้ำมัน ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น ยังมีปัญหาความเชื่อมั่นของประชาชนที่ถูกกระชากให้ต่ำลง สภาพแบบนี้นายกฯ ยังมั่นใจว่าจะอยู่ได้ แต่คนจำนวนมากกังวลว่าจะไม่รอด

การบริหารแบบรัฐราชการ ใช้หน่วยงานความมั่นคงเดินนำ ไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหาประเทศ ถ้าสภาความมั่นคงแห่งชาติทำทุกอย่างได้จริง ก็ควรให้เลขาฯ สมช.เป็นนายกฯ

8 ปีมาแล้วที่ประเทศเป็นอยู่แบบนี้ เชื่อว่าประชาชนได้ข้อสรุปแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรไปต่อหรือพอแค่นี้