เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าวันที่ 24 มิ.ย. 2475 หรือวันนี้เมื่อ 90 ปีที่แล้ว คือวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของ วิวัฒนาการสังคม (Revolution) ที่สอดคล้องกันกับนานาประเทศทั่วโลก เหตุการณ์หลังจากนั้นล้วนสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองหลายด้าน และได้ทำให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับแรกจากประชาชน มีการสร้างสถาบันทางการเมืองทั้งรัฐสภา คณะรัฐมนตรี สมาคมการเมือง มีการจัดการเลือกตั้ง และได้สร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงสังคม ทั้งการจัดระบบการศึกษา ระบบการแพทย์และสาธารณสุข ระบบคมนาคมที่ครอบคลุม

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย แต่ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ ระบอบประชาธิปไตยในแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำประเทศ กลับถูกตั้งคำถามจากนานาชาติ เพราะผู้นำรัฐบาลชุดนี้เป็นคนเดียวกันกับผู้นำการรัฐประหารในปี 57 เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งในปี 62 ยังถูกตั้งคำถามถึงการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาล จวบจนปัจจุบัน ยังมีการปราบพี่น้องประชาชน นักศึกษา และกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการปล่อยปละละเลยให้เจ้าหน้าที่กระทำการปราบปรามผู้ชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ ทั้งที่การชุมนุมเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรอบเกือบศตวรรษ เดินทางมาถึงปัจจุบัน อาจเรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ “ล้มลุกคลุกคลาน” มาตลอด 90 ปี

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า ประชาธิปไตยที่ดี คือประชาธิปไตยกินได้จากรัฐบาลที่มีความรู้ความสามารถ และได้รับฉันทามติจากศรัทธาประชาชนอย่างแท้จริง จากนี้ไปไม่ควรมีรัฐบาลและผู้นำประเทศที่มีเสียง ส.ว.รองรับปูทางเข้าสู่อำนาจโดยที่ประชาชนไม่ได้อนุญาตให้เข้ามาอีกแล้ว การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาชนคือเจ้าของอำนาจอธิปไตย ประชาชนต้องเป็นผู้เลือกผู้แทนและผู้นำประเทศของตน หาก 90 ปี คืออายุของคนๆ หนึ่ง บุคคลผู้นี้ได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว ได้มองเห็นภาพการเปลี่ยนของประเทศมาทุกรูปแบบแล้ว ตอนนี้เขาควรได้มองลูกหลานเติบโต แต่บางคนอาจไม่มีโอกาสแล้ว ได้แต่ฝากความหวังของประเทศไว้ที่ลูกหลาน เพราะอนาคตเป็นของพวกเขา ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนี้.