เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่กระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสุทธิ สุโกศล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เข้าเยี่ยมคารวะ นายลี จอง ชิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อหารือข้อราชการด้านแรงงานประเด็นการขยายตลาดแรงงานระบบการอนุญาตจ้างงานแรงงานต่างชาติ (EPS) และการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยมี นายบัญชา ยืนยงจงเจริญ อัครราชทูต ณ กรุงโซล นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เข้าร่วม  

นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานขอขอบคุณรัฐบาลเกาหลีที่ดูแลแรงงานไทยเป็นอย่างดี และวันนี้เปิดโอกาสให้เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อหารือข้อราชการด้านแรงงานโดยเฉพาะความร่วมมือในการขยายตลาดแรงงานระบบการอนุญาตจ้างงานแรงงานต่างชาติ (EPS) ซึ่งในห้วงสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ที่มีการตรวจคัดกรองแรงงานอย่างเข้มข้นก่อนเดินทาง และมีความพร้อมในการจัดส่งแรงงานมาทำงานในสาธารณรัฐเกาหลี จึงอยากให้ทางการเกาหลีพิจารณาเพิ่มโควตาการจัดส่งแรงงานระบบ EPS ให้กับประเทศไทย และขอให้มีการปรับข้อจำกัดด้านอายุขั้นสูงของแรงงานด้วย พร้อมกันนี้ไทยยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินการจดทะเบียนแรงงานให้ถูกกฎหมาย เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อย่างถูกต้องและได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ในเกาหลีใต้ตามระบบ EPS จำนวน 22,663 คน ส่วนใหญ่ทำงานในภาคการผลิต ก่อสร้าง เกษตร และปศุสัตว์   

ด้าน นายลี จอง ชิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลเกาหลีใต้ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของไทยและคณะที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะกระชับความร่วมมือด้านแรงงานในวันนี้ แรงงานไทยมีส่วนสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ เนื่องจากปัจจุบันแรงงานไทยในเกาหลีใต้มีมากเป็นอันดับสองของจำนวนแรงงานต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามาทำงานในเกาหลีใต้ ส่วนประเด็นข้อหารือต่างๆ ในวันนี้จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการและแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.