เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจเยี่ยมและพบปะประชาชนในพื้นที่ โดยช่วงเช้าได้ร่วมเปิดโครงการ “กิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” จากนั้นได้เดินทางลงพื้นที่วัดเภาเคือง ต.ไสหมาก อ.เชียรใหญ่ กราบนมัสการพระครูอัครธรรมโชติ เจ้าอาวาสวัดเภาเคือง กราบนมัสการสรีระสังขาร หลวงพ่อบุญมี (อดีตเจ้าอาวาสวัดเภาเคือง) และกราบนมัสการรูปเหมือนพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ (เป็นรูปเหมือนที่พระครูพิศิษฐ์อรรถการหรือพ่อท่านคล้ายนำมาประดิษฐานด้วยตนเอง) พร้อมเยี่ยมชมจุดแสดงเรือแสงส่อง ซึ่งเป็นเรือแข่งประเภทเรือเพรียว 16 ฝีพาย และ 7 ฝีพาย โดยมีนายกิตติพงษ์ รองเดช นายอำเภอเชียรใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนใน อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร อ.ปากพนัง ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ นายอนุชา ได้พบปะกับประชาชนที่มาร่วมต้อนรับ โดยกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสานต่อและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ให้ดีขึ้น เช่น โครงการเลี้ยงโค เลี้ยงแพะ ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ผ่านเงินทุนสนับสนุนจากกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.)

ด้านนายสัณหพจน์ กล่าวว่า ตนได้นำเสนอโครงการฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงลุ่มน้ำปากพนัง ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ต่อนายอนุชา โดยเริ่มต้นที่การบูรณะวัดเภาเคือง ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว (ตลาดน้ำวัดเภาเคือง) พร้อมกับกิจกรรมไหว้พระ 10 วัดลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อเชื่อมโยงสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นวัดสำคัญต่างๆ ใน อ.ปากพนัง หัวไทร และเชียรใหญ่ การรื้อฟื้นประเพณีจัดแข่งขันเรือเพรียว ซึ่งเป็น 1 ในประเพณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นตามวิถีของคนลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งในอดีตมีเรือเพรียวชื่อดังมากมาย มักจะถูกเก็บรักษาไว้ในวัด ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ และทำกิจกรรมประเพณีต่างๆ ของคนในท้องถิ่น

จากนั้นนายอนุชา พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ สำนักปฏิบัติธรรมหลวงปู่ทวด (บ้านหน้าโกฏิ) ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง กราบนมัสการพระครูบริหารสังฆกิจ เจ้าคณะอำเภอปากพนัง(ธ) วัดรามประดิษฐ์, พระนรินทร วารชาโต หัวหน้าสำนักปฏิบัติธรรมหลวงปู่ทวดสำนักปฏิบัติธรรม และกราบสักการะรูปเหมือนหลวงปู่ทวด โดยมีนางพัทยา ทองเสภี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครศรีฯ นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอปากพนัง นายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ ขณะเดียวกันพระนรินทร วารชาโต และชาวบ้านได้ยื่นหนังสือขอยกฐานะสำนักปฏิบัติธรรมขึ้นเป็นวัดหน้าโกฏิ ต่อ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และสืบทอดประวัติความเป็นมาของสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาและความเชื่อของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เตรียมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด ณ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ต.ขุนช่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี และลงพื้นที่ศึกษาการจัดการน้ำคลองภักดีรำไพ อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในวันที่ 27 มิ.ย. นี้

ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางความร่วมมือและความเข้าใจร่วมกันจากทุกฝ่ายในการเดินหน้าโครงการ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสร้างความเข้าใจเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่น ชุมชน และองค์กรภาคสังคม หรือเอ็นจีโอ (NGOs) ในการดำเนินโครงการเพื่อให้เป็นไปตามแผน ซึ่งขณะนี้แผนการก่อสร้างได้ผ่านความเห็นชอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ (EHIA) จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบื้องต้น พล.อ.ประวิตร สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความก้าวหน้าในรายละเอียดของการก่อสร้าง เพื่อสรุปเป็นแนวทางร่วมกันในการพัฒนาโครงการ เพื่อส่งต่อให้กรมชลประทานสามารถเสนอรายงาน EHIA ฉบับสมบูรณ์ ต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประกอบการในการใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้นบางส่วน และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนช่อง หลังจากนั้นตามขั้นตอนกรมชลประทานจะต้องนำเสนอเรื่องให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จึงจะนำเข้าสู่การพิจารณาคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบ ตามงบประมาณปี 67 ในการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด มูลค่า 6,400 ล้านบาท ตามกำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ 6 ปี (67-72)

สำหรับการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำวังโตนด เป็น 1 ใน 4 แห่งของอ่างเก็บน้ำ ที่ ครม.มีมติ วันที่ 7 เม.ย.52 ให้กรมชลประทานศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ จ.จันทบุรี เนื่องจาก อ.แก่งหางแมว มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยมากถึง 1,841 มิลลิเมตรต่อปี แต่ไม่มีอ่างเก็บน้ำที่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันอ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 แห่ง คือ อ่างคลองประแกด ความจุ 60.26 ล้านลูกบาศก์เมตร และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 2 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ความจุ 80.70 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 66 และอ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ ความจุ 68.10 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 67

อย่างไรก็ตามคาดว่า ปริมาณน้ำมีมากในช่วงฤดูมรสุม แต่ไม่มีอ่างเก็บน้ำที่รองรับเพียงพอในการเก็บน้ำจึงจำเป็นต้องก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังโตนดเป็นแห่งที่ 4 หากก่อสร้างอ่างฯ ทั้ง 4 แห่งแล้วเสร็จ จะทำให้มีความจุของอ่างรวมทั้งหมด 308.56 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่จะเป็นระบบช่วยจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งในพื้นที่จันทบุรี ที่ไม่เพียงจะทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นคงทางด้านน้ำอย่างเป็นระบบ พร้อมแผนการแบ่งน้ำส่วนเกินที่จะป้อนไปยังอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัด ตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของเมืองในอนาคต