เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงความคืบหน้าญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุญัตติเป็นเรียบร้อยแล้ว โดยมีรัฐมนตรีที่จะโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งหมด 11 คน ตามรายชื่อที่ปรากฏ ซึ่งครั้งนี้ผู้ที่จะโดนหนักที่สุด คือ หัวหน้ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยวันนี้จะฉายหนังตัวอย่างความผิดพลาด ล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพของ พล.อ.ประยุทธ์
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ลงนามในการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 อายุสัมปทาน 35 ปี โดยมีการลงนามไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พ.ย.64 ซึ่งจะมีการเปิดใช้งานปี 68 จะทำให้กวาดรายได้กว่า 4 พันล้านบาท รองรับการขนถ่ายตู้สินค้าเพิ่มอีก 2 ล้านที.อี.ยู. พร้อมกับดันขนส่งตู้สินค้าผ่านทางรถไฟอีก 30% โดยเป็นโครงการยักษ์ใหญ่ มหาโปรเจคท์ของพล.อ.ประยุทธ์
แต่โครงการดังกล่าวการท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างใช้เงินลงทุน 21,320 ล้านบาท เป็นการลงนามกิจการร่วมค้าและเริ่มทำสัญญาตั้งแต่ 3 ก.ย.63 ในสัญญากำหนดระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จ 1,460 วัน หรือ 4 ปี แต่ขณะนี้สร้างมา 2 ปี แต่ท่าเรือยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง ตนมองว่าบ้านเมืองเสียหาย เสียโอกาส จึงได้ถามในกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณฯ ปลัดกระทรวงคมนาคม ก็ยังตอบคำถามไม่ได้ว่าเบิกจ่ายไปเท่าไรแล้ว
“ผมขอให้ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมตอบชี้แจงในสภาว่า การบริหารแบบนี้บ้านเมืองเสียหายแล้วมาบอกว่า พร้อมตอบ ผมขอให้เตรียมตอบประเด็นนี้เลย ทำหน้าที่บริหารอย่างไรโครงการยักษ์ใหญ่แบบนี้จะได้เปิดใช้งานในปี 68 หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีการถมดินหรือถมทะเล หลังจากนี้จะไปแฉต่อในสภาว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไร”
นายยุทธพงศ์แฉต่อไปว่า ตนพบความไม่โปร่งใส ส่อไปในทางทุจริตของกรมทรัพยากรน้ำ ในปี 65 กรมทรัพยากรน้ำของบประมาณทั้งสิ้น 5,435 ล้านบาท มีพันธกิจว่าพัฒนา ฟื้นฟู ปรับปรุง ซ่อมแซมบริหารโครงการแหล่งน้ำและระบบกระจายน้ำ เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยกรมทรัพยากรน้ำอ้างเรื่องภัยแล้ง ไปของบกลางจาก พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแต่ปี 63-65 ของบประมาณรวม 1,143 ล้านบาท อ้างว่าหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีความพร้อม ใช้วิธีพิเศษโยนให้ทหารไปทำ ไม่ต้องประมูล อ้างเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน ปรากฏว่างบประมาณดังกล่าวรวม 46 โครงการ ทำเสร็จรวม 35 โครงการตั้งแต่ปี 63 นอกนั้นทิ้งงานเพราะงบกลางกันไม่ได้ อันนี้ถือว่าส่อไปในทางทุจริตหรือไม่
เมื่อไปดูค่าปรับปรุงแหล่งน้ำ งบประมาณ 1,093 ล้านบาท ปรากฏว่าเอาไปจัดลงที่ จ.ยโสธร เพียงจังหวัดเดียว 202 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 ถามว่าผิดปกติหรือไม่ จังหวัดใหญ่ๆ เช่น นครราชสีมา อุดรธานี สกลนคร บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ เป็นต้น ไม่ได้งบเลยสักบาท ถามว่าสำนักงบประมาณให้ผ่านมาได้อย่างไร จัดงบไม่เป็นธรรม ส่อไม่โปร่งใสแน่นอน แล้วจังหวัดอื่นไม่แล้ง ไม่เดือดร้อนหรือ ทั้งที่เกษตรกรก็เดือดร้อนไปทั่ว
