เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า ทันที่ที่ทราบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์บริเวณสำเพ็ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงมีความห่วงใยและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของลูกจ้าง นายจ้าง และสถานประกอบกิจการ พร้อมสั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งให้ความช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้างโดยเร่งด่วน ตนจึงเร่งสั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานส่งพนักงานตรวจความปลอดภัยเข้าไปตรวจสอบและหาข้อเท็จจริงและประสานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 11 (ตลิ่งชัน) ให้การช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้าง และสถานประกอบกิจการ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นผู้เสียชีวิตจากการถูกไฟคลอก ซึ่งเป็นลูกจ้างของร้านขายอุปกรณ์/ถุงพลาสติก 2 ราย เป็นชายสัญชาติกัมพูชา 1 ราย และหญิงไทย 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากการสำลักควัน 9 ราย โดย 7 รายเข้ารับการรักษาที่ รพ.หัวเฉียว ตรวจสอบพบว่ามีประกันกลุ่มอุบัติเหตุ 4 ราย ได้แก่ นายศิรสิทธิ์ ศิลารักษ์, นายสมใจ อ่อนภิรมย์, นายจิรภัทร จรรยานุภาพ และนายพรชัย นามกระโทก เป็นผู้มีสิทธิประกันสังคม 1 ราย คือ นายศรัฌยพงศ์ กิตติโชควัฒนา และอยู่ระหว่างตรวจสอบสิทธิ 2 ราย คือ นายกิติชาติ การุณรัตนกูล อายุ 71 ปี และนางติงงิ้ม แซ่เฮ้ง อายุ 99 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกลาง ยังไม่ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาล

สำหรับลูกจ้างที่เสียชีวิต 2 ราย รายแรก คือ น.ส.จิราพัชร สุ่มมาตร์ เป็นลูกจ้างของห้างผ้าใบราชวงศ์ สิทธิประโยชน์ที่ทายาทจะได้รับ เป็นค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนขาดรายได้จำนวน 1,260,000 บาท และบำเหน็จชราภาพกรณีตาย จำนวน 134,653 บาท พร้อมดอกเบี้ย รวมทั้งสิ้น 1,444,653 บาท รายที่สอง นาย PHEAK. DOEUM เป็นลูกจ้างสัญชาติกัมพูชา ของห้างผ้าใบราชวงศ์เช่นกัน ที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สิทธิประโยชน์ที่ทายาทจะได้รับ เป็นค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนขาดรายได้จำนวน 722,904  บาท บำเหน็จชราภาพกรณีตาย จำนวน 17,512  บาท พร้อมดอกเบี้ย รวม 790,416 บาท ซึ่งสำนักงานประกันสังคม จะได้ประสานความช่วยเหลือจ่ายสิทธิประโยชน์แก่ทายาทโดยเร็วต่อไป.