เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พาผู้เสียหายกว่า 30 คน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ร้องขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดีที่ถูกบริษัทขายโปรโมชั่นท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง หลอกขายคูปองที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังก่อนหน้านี้ เคยเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ บก.ปคบ. ไว้เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยมี พ.ต.อ.ทีณัฐกรณ์ วัฒนแสงประเสริฐ ผกก.สอบสวน บก.ปคบ. เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือดังกล่าว

ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้ซื้อคูปองหรือวอยเชอร์โรงแรม 5 ดาว บ้านพักพูลวิลล่า, ร้านอาหาร แพตกหมึก หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ย่านเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ผ่านตัวแทนจำหน่ายและหน้าเพจของบริษัทดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ราคาถูกและมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลาย ช่วงแรกสามารถใช้ได้จริง กระทั่งเดือน พ.ย.64 เริ่มมีปัญหา ทางเจ้าของสถานที่พัก หรือร้านอาหาร ปฏิเสธการใช้คูปอง อ้างว่าทางบริษัทดังกล่าวไม่ได้จ่ายเงิน เมื่อสอบถามกับทางบริษัทที่จำหน่ายคูปองก็ถูกบ่ายเบี่ยง อ้างติดปัญหาบางอย่าง และปฏิเสธที่จะจ่ายเงินคืนให้ ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายรวมแล้วกว่า 700 คน แต่หากนับจำนวนตามเพจและกลุ่มไลน์ต่างๆ คาดจะมีผู้เสียหายจริงๆ ไม่ต่ำกว่าหมื่นคน

นายรัชพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้เสียหายเคยเข้าแจ้งความกับทางตำรวจ บก.ปคบ. และ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ไว้เมื่อช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้คดีไม่คืบหน้า ไม่มีการออกหมายจับผู้กระทำผิด ไม่ทราบว่าติดปัญหาอะไร ในวันนี้จึงพากลุ่มผู้เสียหายมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดติดตามคดี ซึ่งการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คล้ายกับในกรณีของดารุมะวอยเชอร์บุฟเฟ่ต์ทิพย์

“เพราะรู้อยู่แล้วว่าโปรโมชั่นตามที่กล่าวอ้างมันเป็นไปไม่ได้ โปรโมชั่นก็แปลกๆ อย่าง 900 บาท ขาย 20 บาท จึงเป็นไปไม่ได้ ส่วนการที่เกิดเรื่องขึ้นจะเป็นเพราะการบริหารที่ผิดพลาดของบริษัท หรือเป็นการจงใจหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่ควรจะปล่อยเรื่องเงียบหายไปเช่นนี้”

พ.ต.อ.ทีณัฐกรณ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย และพยาน แต่เนื่องจากผู้เสียหายและพยานหลักฐานมีจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำผิดเป็นที่แน่ชัด ก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศสลออกหมายจับผู้กระทำผิดต่อไป