เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่สำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองมหาสารคาม ลงพื้นที่ชุมชนตักสิลา 1 เดินรณรงค์ให้ความรู้และฉีดพ่นสารกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกโดยให้ความรู้ประชาชนทั้ง 31ชุมชน ในการเฝ้าระวังป้องกันโรค แนะประชาชนหมั่นคว่ำภาชนะที่มีน้ำขังรอบบ้าน หยอดทรายอะเบทในน้ำ เพื่อตัดวงจรชีวิตยุงลายไม่ให้วางไข่และแพร่พันธุ์ อีกทั้งไม่อยู่ในที่มืดในช่วงกลางวัน เพื่อไม่ให้ยุงลายกัด

นายภาคิน ติระพงศ์ไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า จากรายงานระบาดวิทยาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม 93 คน คิดเป็นร้อยละ 9.66 ต่อแสนประชากร โดยยอดผู้ป่วยสะสม 4 สัปดาห์ล่าสุดพบว่า มีผู้ป่วยสูงถึง 61 คน กลุ่มอายุผู้ป่วย 3 ลำดับแรกได้แก่ 10-14 ปี, 5-9 ปี และ 15-24 ปี ตามลำดับ ส่วนอำเภอที่พบผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ อ.นาเชือก อ.เมืองมหาสารคาม และ อ.วาปีปทุม

ทั้งนี้แนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงวงรอบของการระบาด อาการป่วยของโรคไข้เลือดออกจะคล้ายกับไข้หวัด แต่มีอาการเด่นคือ มีไข้สูงลอย 2-7 วัน มีจุดเลือดออก หน้าแดง ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร เป็นต้น

โดยเทศบาลเมืองมหาสารคามได้ออกรณรงค์ และขอความร่วมมือจากทุกครัวเรือนได้ปฏิบัติดังนี้ คือ ปิดปากโอ่งด้วยผ้ามุ้ง/พลาสติก มัดให้แน่นมิดชิด ใช้ไม้ตียุง ใส่สารเคมีกำจัดลูกน้ำยุงลาย (ทรายอะเบท) ลงในภาชนะกักเก็บน้ำ เลี้ยงปลากินลูกน้ำ เช่น ปลากระดี่ ปลาหางนกยูง ปลาสอด ลงในภาชนะกักเก็บน้ำ ใส่ปูนแดงปั้นเป็นก้อนกลมตากแดดแห้งแล้ว ลงในภาชนะกักเก็บน้ำ ฉีดสเปรย์พ่นฆ่ายุงภายในบ้านปรับปรุงสิ่งแวดล้อมภายในตัวบ้าน และนอกบ้านให้เป็นระเบียบ สะอาด โปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก