เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งในการนำเสนองานวิชาการเนื่องในวาระ 90 ปีประชาธิปไตย : “การทำให้รัฐประหารหมดไปจากประเทศไทยด้วยมาตรการทางกฎหมายและบรรทัดฐานของศาล” สรุปใจความสำคัญ เสนอวิธีสกัดรัฐประหารครั้งต่อไป ต้องเปลี่ยนบรรทัดฐานฝ่ายตุลาการและปรับแก้กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยเฉพาะรัฐธรรนูญฉบับ 2560 โดยยกเลิก มาตรา 279 เพื่อให้สถานะของประกาศและคำสั่งของ คสช.ไม่มีการรับรองโดยกฎหมายแล้ว จากนั้นให้ออกเป็น พ.ร.บ. โดยไปรวบรวมประกาศและคำสั่งของ คสช. และคณะรัฐประหารทุกคณะที่ทุกฉบับที่ยังหลงเหลืออยู่มาตราเป็น พ.ร.บ. เพื่อขจัดประกาศ และคำสั่งรัฐประหารให้พ้นระบบกฎหมายไทยทั้งหมด เหมือนเป็นการดีท็อกซ์ เอาของเสีย สารพิษตกค้างออก เป็นการส่งสัญญาณว่าจากนี้เลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว คำสั่งและประกาศของคณะรัฐประหารจะไม่มีที่อยู่ในระบบกฎหมายไทย และกระบวนการยุติธรรมอีกต่อไป

นอกจากนี้ต้องเปลี่ยนบรรทัดฐานของศาล และของประเทศด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญ แต่จะเขียนว่ารัฐประหารทำไม่ได้ หรือรับรองการรัฐประหารทำไม่ได้ แค่นี้ไม่เพียงพอ แต่ต้องสร้างสัญญาประชาคมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าจะเลิก จะเปลี่ยน และจะทำให้รัฐประหารหมดไป ประชาชน นักการเมืองต้องไม่เรียกร้องการรัฐประหาร เรียกทหารมายึดอำนาจอีกอาจารย์มหาวิทยาลัย ต้องเลิกสอนว่ายึดอำนาจสำเร็จ เป็นรัฏฐาธิปัตย์ เป็นผู้ได้อำนาจรัฐ ประกาศสิ่งใดมาย่อมเป็นกฎหมายบังคับประชาชนได้ ต้องเลิกสอนเช่นนี้ เพราะเป็นต้นทางของความคิดที่ศาลเอามาใช้ตัดสินเป็นปัญหาของนักกฎหมาย เมื่อ 90 ปี เราบอกว่าอำนาจเป็นของปวงชนชาวไทยทหารที่รัฐประหารจึงเป็นผู้แย่งชิงอำนาจจากประชาชน ซึ่งทั้งหมดที่ตนเสนอนี้ต้องดำเนินการก่อนเกิดรัฐประหารครั้งต่อไป ไม่ใช่เกิดแล้วค่อยทำ เพราะถึงตอนนั้นจะทำไม่ได้ เพราะเขาจะหาทางทำให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญในขณะนั้น จึงต้องทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้รัฐประการหมดไปจากประเทศไทย และประชาธิปไตย และการปกครองโดยกฎหมายจะประสบความสำเร็จในประเทศไทย

“เราทำได้ถ้าจะทำ แต่ที่ผ่านมาเราไม่ทำ อยู่กันไปแบบนี้จนกว่าเขาจะปฏิวัติแต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว 8 ปีที่ผ่านมา เราน่าจะสรุปได้แล้วว่า การรัฐประหารไม่สามารถแก้ปญหาบ้านเมืองอย่างยั่งยืนได้ ไม่ได้ทำให้เกิดประชาธิปไตยที่มั่นคงขึ้นมาได้ แต่ได้เพียงผู้มีอำนาจกลุ่มใหม่ที่ตรวจสอบได้ยากกว่าเดิน หรือตรวจสอบไม่ได้เลย และได้รัฐธรรมนูฐฉบับใหม่ที่แย่ลง มีการรับรองและเขียนวิธีการสืบทอดอำนาจที่ลึกซึ้ง แก้ยากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ประชาธิปไตยของไทยพ้นวงจรอุบาทว์แห่งการปฏิบวัติรัฐประหาร” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว.