ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวเศร้าของวงการบันเทิงไทยและสะเทือนหัวใจแฟนๆทุกคนเสมอ เพราะหากนับถึงครึ่งปี 2565 นี้จะพบว่ามี “ดารา” หรือ “คนดัง” ในวงการบันเทิงเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก เหลือไว้เพียงความทรงจำและผลงานที่ให้แฟนๆที่รักพวกเขาได้ระลึกถึงในความทรงจำตลอดไป

“เดลินิวส์ออนไลน์” จะชวนแฟนๆ ทุกคนไปร่วมระลึกถึงดาวดังที่ลับฟ้าไป แต่พวกเขาจะยังคงอยู่ในใจของแฟนๆ เสมอกัน

เริ่มจากวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา “ศรเพชร ศรสุพรรณ” นักร้องลูกทุ่งระดับตำนาน เจ้าของฉายา “หนุ่มนา เสียงเด็ด” อายุ 73 ปี ที่มีผลงานเพลงมามากมาย อาทิ ข้าวไม่มีขาย, จำใจขาด, คนสวยใจดำ ฯลฯ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบโดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีภาวะช็อกจากการติดเชื้อ ไตวาย และเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ หลังมีข่าวออกไป แฟนคลับและชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเสียใจและระลึกถึงศรเพชรกันอย่างมากมาย โดยศพของศรเพชรนั้น ญาติได้นำไปทำพิธีสวดที่ จ.สุพรรณบุรี อีกด้วย

จากนั้นวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา วงการบันเทิงก็เศร้าอีกเมื่อสิ้นระดับครูเพลงคนดัง “ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” ที่จากไปด้วยวัย 79 ปี หลังพักรักษาอาการป่วยใน รพ. นาน 2 เดือน และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยครูไวพจน์ เป็นผู้มากความสามารถทั้งร้องเพลงลูกทุ่งและยังถูกยกให้เป็น “ราชาเพลงแหล่”  ซึ่งมีเพลงแหล่บันทึกแผ่นเสียงมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังสามารถแหล่ด้นกลอนสดได้อย่างไม่ติดขัด และได้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) เมื่อปี พ.ศ. 2540 ทั้งนี้ครูไวพจน์มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ สวดอภิธรรม 9 คืน เก็บศพไว้ 100 วัน รอกำหนดวันพระราชทานเพลิง อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในงานพระราชทานเพลิงศพของครูไวพจน์ ก็ได้มีบรรดาลูกศิษย์และเพื่อนพ้องในวงการร่วมร้องเพลงแสดงความอาลัยกันอย่างมากมายทันที

ต่อมาในวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา อดีตดาราหนุ่มชื่อดัง “ไมเคิล พูพาร์ต” ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 50 ปี หลังป่วยซึมเศร้านานกว่า 2 ปี โดยตำรวจ สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในบ้านพักซอยนาคนิวาส 5 แขวงลาดพร้าว ซึ่งไมเคิลตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเอง ท่ามกลางความเสียใจของแฟนๆทุกคน ต่อมา “อั๋น โอลิเวอร์ พูพาร์ต” นักแสดงรุ่นใหญ่และเป็นน้องชายของไมเคิล ได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่าตนเองไม่ติดใจการเสียชีวิตของพี่ชาย โดยศพของไมเคิลได้บำเพ็ญกุศลที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน ก่อนจะฌาปนกิจศพ สำหรับ ไมเคิล พูพาร์ต เป็นนักแสดงลูกครึ่งชาวไทย-เบลเยียม เคยมีผลงานโฆษณาที่สร้างชื่อ เป็นงานโฆษณาเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่ง ที่ถ่ายคู่กับ “นุ่น สินิทรา บุณยศักดิ์” มีผลงานถ่ายแบบ ผลงานละครโทรทัศน์ เช่น เรื่อง เมียรายวัน, คู่รัก, รังหนาว ฯลฯ ก่อนจะออกจากวงการบันเทิงและใช้ชีวิตส่วนตัวกับครอบครัว กระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา “ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ” นักร้อง พิธีกร นักแสดง นักพากย์ชาวไทย คุณพ่อของนักแสดงดัง “เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ” ได้เสียชีวิตลง โดยธรรมรัตน์ ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตในวัย 87 ปี และเข้ารับการรักษาตัวตามขั้นที่โรงพยาบาลมาได้ประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ แต่มีโรคประจำตัวและอายุมาก จึงทำให้การรักษาไม่สำเร็จ เชื้อกระจายลงปอด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ท่ามกลางคนบันเทิงที่เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา “เศรษฐา ศิระฉายา” ศิลปินแห่งชาติ พิธีกร นักแสดง นักร้องชาวไทย ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดในวัย 77 ปี หลังจากแพทย์นัดให้มาตรวจมะเร็งปอด ตามนัดและนอนให้น้ำเกลือ แต่หลังจากนั้นอาการไม่ดีจนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 20 ก.พ.2565 ท่ามกลางคนดังคนบันเทิงทั่วทุกวงการ ต่างไว้อาลัยและเข้ามาแสดงความเสียใจกับครอบครัวศิระฉายา อย่างมากมาย โดยวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่วัดเทพศิรินทราวาส ได้มีการสวดพระอภิธรรมศพเศรษฐา ก่อนจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศลและพระราชทานเพลิงศพต่อไป

แต่การเสียชีวิตที่ครึมโครมและเป็นประเด็นที่คนสนใจมากที่สุดคือกรณีของนักแสดงสาว “แตงโม นิดา” ที่ตกเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หลังลงเรือไปกับเพื่อนและผู้จัดการส่วนตัวอีก 5 คน ของคืนวันที่ 24 ก.พ.2565 ท่ามกลางการตามหาและเอาใจช่วยของแฟนๆ มาโดยตลอด และแล้วก็เกิดเรื่องช็อกหัวใจคนไทยขึ้นเมื่อบ่ายของวันที่ 26 ก.พ.2565 ทีมกู้ภัยพบได้พบร่างของแตงโม นิดา ในสภาพเสื้อผ้าครบชุด และมีบาดแผลที่ขา คาดว่าโดนใบพัดเรือซึ่งครอบครัวยืนยัน และส่งศพไปชันสูตรที่ สภ.นนทบุรี และก่อนจะมีการส่งจงต่อไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อผ่าพิสูจน์รอบ 2 เพื่อหาผลทางคดีต่อไป โดยจนถึงวันนี้คดีของสาวแตงโม ยังคงมีประเด็นต่อยอดและมูลเหตุอื่นๆ ออกมาให้คนได้ติดตามเรื่อยๆ โดยมีตัวละครเพิ่มมากขึ้น และยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่หลายคนยอมรับได้จนถึงปัจจุบันนี้

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา “เอก สรพงศ์ ชาตรี” พระเอกชื่อดังขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศก็ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 73 ปี โดยมีการระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นโรคมะเร็งปอด หลังเข้ารักษาตัวแต่อาการไม่ดีขึ้น ซึ่งการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น สรพงศ์ไม่ได้แจ้งแฟนๆ ให้รับรู้เพราะหวั่นว่าเป็นห่วง ซึ่งมี “ดวงเดือน จิไธสงค์” ภรรยาคู่ชีวิตดูแลในวาระสุดท้ายของชีวิตนั่นเอง สำหรับสรพงศ์ ชาตรี เป็นชื่อในวงการบันเทิง มีชื่อเดิมว่า พิทยา เทียมเศวต และ กรีพงศ์ เทียมเศวต ตามลำดับ ชื่อเล่น เอก เกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2492 ที่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จบการศึกษาชั้น ป.4 แล้วบวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ จ.พระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ บางยี่ขัน ธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ.2512 ในปี พ.ศ.2552 ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏครราชสีมา ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศิลปะร่วมสมัย) สาขาศิลปะการแสดงในคณะกรรมการส่งเสริม ศิลปะร่วมสมัย 9 

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มี.ค. วงการบันเทิงสูญเสียอีกหลัง “บีม ปภังกร ฤกษ์เฉลิมพจน์” นักแสดงหนุ่มชื่อดังได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันขณะนอนหลับ ญาติพยายามปลุก แต่ไม่ตื่น จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล และพยายามกู้ชีพแต่ไม่เป็นผล และได้รับแจ้งจากญาติว่าดาราหนุ่มได้เสียชีวิตในวัย 25 ปี หลังจากทีมแพทย์พยายามช่วยชีวิตแล้ว แต่ไม่เป็นผลสำหรับบีมมีผลงานมากมาก ทั้ง เรื่องบนเตียง (Sleepless Society: Bedtime Wishes), น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์, สัมผัสพิศวง ตอน โจ๋ผู้กล้า, เรื่องลับหลัง เป็นต้น

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดข่าวเศร้าวงการเพลงลูกทุ่ง “วิทยา ศุภพรโอภาส” หรือ “เสี่ยแหบ” ผู้บุกเบิกคลื่นลูกทุ่ง เอฟเอ็ม และดีเจคนดัง เสียชีวิตเเล้วในวัย 72 ปี ด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งลูกชาย “เป้ ศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส” ได้แจ้งข่าวว่าบิดาได้เสียชีวิตแล้ว ผ่านเพจ Vitaya Supaporn O Pas โพสต์ข้อความระบุว่า “สวัสดีครับผม เป้ ศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส ลูกชายคุณ วิทยา ศุภพรโอภาส นะครับ ผมขอแจ้งข่าวให้ทุกท่านทราบว่า ณ เวลานี้ คุณพ่อได้จากพวกเราไปแล้วอย่างสงบครับ” สำหรับประวัติ “วิทยา ศุภพรโอภาส” หรือ “เสี่ยแหบ”  เกิดวันที่ 14 ก.ย.2492  สำรวจการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สมรสกับ นางนัยนา ศุภพรโอภาส มีบุตร 3 คน คือ นายศุภวิทย์ ศุภพรโอภาส น.ส.ศุภมาศ ศุภพรโอภาส และ น.ส.ศุภนุช ศุภพรโอภาส เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการเพลงลูกทุ่ง ยังคงมีรายการในยูทูบ ในระยะหลังเจ้าตัวป่วยและเข้าโรงพยาบาล โดยไม่ได้เป็นข่าว และจากไปอย่างสงบ ครอบครัวจะตั้งสวดพระอภิธรรมศพ ที่วัดราชวรินทร์ เขตธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 22-28 เม.ย. และจะบรรจุศพไว้ 100 วัน เพื่อขอพระราชทานเพลิงในลำดับด้วย

ขณะเดียวกันวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา วงการบันเทิงเศร้าอีกหลัง “เจย์ ศุภกาญจน์ ปลอดภัย” ลูกชาย “เจี๊ยบ กาญจนาพร ปลอดภัย” นักแสดงรุ่นใหญ่เสียชีวิตภายในบ้านพักย่านพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ โดยเจย์นอนเสียชีวิตคาบันไดและมีเชือกไนลอนเส้นใหญ่พันรอบคอ ใกล้กันพบมีดทำครัวตกอยู่ และจากการตรวจสอบร่องรอยบาดแผลภายนอก ไม่พบร่องรอยบาดแผลอื่น นอกจากรอยช้ำรอบลำคอ ซึ่งนำความเสียใจมาสู่ครอบครัวอย่างมาก โดยครอบครัวเชื่อว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบจากการป่วยซึมเศร้าและไม่ได้ติดใจอะไรในการเสียชีวิต

ถัดมาเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดข่าวเศร้าขึ้นอีกหลังอดีตพระเอกดัง “สุริยา ชินพันธุ์” ได้เสียชีวิตลงแล้ว หลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ด้วยอาการป่วยหลายโรค โดยชีวิตปัจจุบันของสุริยา ชินพันธุ์ ไม่ได้มีผลงานในวงการบันเทิงอีกแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน จนกระทั่งมีอาการอัมพฤกษ์ ภรรยาก็เลิกรากันไป จึงได้รับความช่วยเหลือจาก สรพงศ์ ชาตรี เพื่อนนักแสดงร่วมรุ่น เมื่อหายเป็นปกติ สุริยาหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพสารพัด ทั้งขับแท็กซี่, ทำร้านอาหาร, เป็นผู้จัดละครโทรทัศน์ ต่อมาได้อยู่กินกับ บูรพา ชินพันธุ์ ภรรยาคนปัจจุบันมานานกว่า 20 ปี ซึ่งทั้งคู่ไม่มีบุตรด้วยกัน ที่บ้านพักส่วนตัวที่ย่านคลองสาม ตำบลลาดสวาย อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จนกระทั่ง สุริยา ชินพันธุ์ ติดโควิด-19 และเชื้อลงปอด เข้ารักษาตัวที่ห้อง ICU ตั้งแต่ประมาณวันที่ 25 พ.ค.2565 และเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา

กระทั่งวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏข่าวเศร้าอีกครั้งหลัง ทุย เอ็ดเวิร์ด แวนโซ นักร้องนำวงคาไลโดสโคป อายุ 64 ปี เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ท่ามกลางความเสียใจของคนในวงการดนตรี ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดบัวขวัญพระอารามหลวง ศาลา 1 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นักร้องนำวงคาไลโดสโคป เจ้าของฉายา “ร็อด สจ๊วต เมืองไทย” วงดนตรีเฮฟวี่เมทัลระดับตำนานของเมืองไทย และเป็นเจ้าของผลงานเพลงดังหลายเพลงอีกด้วย

วงการบันเทิงปีนี้ เรียกได้ว่าแค่ครึ่งปีเท่านั้น ก็พรากดาวดังลับฟ้าไปหลายดวง แม้ไม่มีใครอยากจาก แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องจาก สิ่งที่แฟนๆ ทำได้ดีที่สุดก็คือการระลึกและคิดถึงศิลปินคุณรักนั่นเอง แม้วันนี้เขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ผลงานและความทรงจำดีจะยังคงอยู่คู่วงการบันเทิงตลอดไป