กรณี นางสะเทือน (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ภายในชุมชนเนินสุรา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เข้าแจ้งความ ตำรวจ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพราะเหลืออดพฤติกรรมแก๊งทวงหนี้ดอกโหด แอบเข้ามาใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเสียบเข้าไปในแม่กุญแจแล้วหยอดกาวร้อนใส่แม่กุญแจที่ล็อกประตูร้านทั้ง 4 บาน เพื่อไม่ให้เข้าไปเปิดร้านขายของได้ หลังลูกสาวไปกู้เงินแล้วส่งดอกช้าเพียง 2 วัน มาตามทวงถึงบ้านแล้วไม่พบใคร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ขาดส่ง2วัน! แก๊งเงินกู้แสบมาทวงไม่เจอ ใช้กาวตราช้างหยอดกุญแจหมดบ้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.วายุภักษ์ วงศ์ศักศิรินทร์ ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.อภิรักษ์ เพิ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.สุขุม ไธสง รอง ผกก.สส.สภ.ชะอำ พ.ต.ต.ทวีเดช เทียนทอง สว.สส.สภ.ชะอำ พร้อมด้วย ชุดสืบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ร่วมกันแถลงจับกุม นายบุญรอด จำนงก์กุล อายุ 24 ปี และ นายพีรพัฒน์ สีวงสา อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบุรี จ 168/2565 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ในข้อหา ร่วมกันทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิด ความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ร่วมกันประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับทางการค้าปกติ โดยไม่ได้ขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

พ.ต.อ.วายุภักษ์ เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า เป็นเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ และให้ผู้เสียหายกู้เงินจริง โดย นายพีรพัฒน์ สารภาพว่าเป็นผู้ใช้กาวตราช้างหยอดกุญแจให้ผู้เสียหายไม่สามารถเปิดร้านขายของได้ เนื่องจากผู้เสียหายไม่ส่งเงินกู้ จึงกลั่นแกล้ง ข่มขู่ให้จ่ายเงิน ส่วนนายบุญรอด ปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการใช้กาวหยอดกุญแจแต่อย่างใด จึงแจ้งข้อหาทั้งสองตามหมายจับ ทั้งนี้อยากฝากถึงแก๊งเงินกู้นอกระบบที่จะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่าทำเลยดีกว่า ตำรวจจะไม่นิ่งนอนใจและจะสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามจับกุมตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7