เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่รัฐบาลได้มีการประกาศขึ้นราคา ทั้งสินค้าอุปโภค และบริโภคหลายรายการ ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จนทำให้หลายร้านต้องมีการปรับขึ้นราคา 30-50% ส่วนบางร้านก็แบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว ก็ต้องปิดตัวลงไป

โดยที่ร้าน เฝอ 88 หม้อไฟบุฟเฟ่ต์ ในโครงการเดอะชิลล์ปาร์ค ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผ่านมาทางร้านได้ขายราคาเดิมมาตั้งแต่ต้นปี เพื่อหวังช่วยเหลือลูกค้า แต่พบว่าที่ผ่านมาขายขาดทุนมาตลอด ซึ่งภายหลังจำเป็นจะต้องมีการปรับราคาจากราคา 288 บาท ขอปรับขึ้นอีก 50 บาท เป็น 338 บาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบทุกชนิดปรับขึ้นทุกวัน อย่างหมูสดกิโลกรัมละ 160 ปรับเป็น 220 บาท ปลาดอลลี่ จาก 60-70 ขึ้นเป็น 120 บาท เพื่อหวังประคองร้านอยู่ให้ได้

นายเรวัฒน์ ปัทมาวรรณกูล เจ้าของร้านเฝอ 88 หม้อไฟบุฟเฟ่ต์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ตอนนี้ ร้านอาจจะมีแนวโน้มปิด เนื่องจากวัตถุดิบ สินค้าต่างๆ ที่นำมาจำหน่ายขึ้นราคาตั้งแต่ 30-50% อย่างหมูสดที่เคยซื้อ กิโลกรัมละ 160 ปรับ 220 ปลาดอลลี่ จาก 60-70 ขึ้นเป็น 120 บาท กุ้ง จาก 70 เป็น 110 บาท ทุกอย่างเดินหน้าปรับขึ้นหมด แต่ที่ผ่านมา ตนพยายามจะขายขาดทุนเพื่อคงลูกค้าไว้ ซึ่งหลังจากวัตถุดิบพากันขึ้นราคา ตนก็จำเป็นจะต้องมีการปรับขึ้นราคาอีก 50 บาท เป็น 338 บาท เพื่อหวังที่จะรักษาร้านเอาไว้ พอให้มีเงินเดือนจ่ายพนักงาน ค่าเช่าร้านเอาไว้ก่อน

นายเรวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า ซึ่งราคานี้ยังไม่เหลือกำไร แต่ต้องยอมรับลูกค้าหายไป คงเป็นลูกค้าเก่า ที่จะหมุนเวียนเข้ามา หน้าใหม่ๆ ตอนนี้เรียกว่าไม่มีเข้ามาเลย แต่หากจากนี้สินค้ายังไม่ปรับลด ตนก็คิดว่าไม่สามารถปรับราคาขึ้นไปได้อีก ร้านคงไปต่อไม่ไหว คงต้องปิด ทำให้พนักงานตกงาน ซึ่งตนก็สงสาร แต่เราแบกขาดทุนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วย.