จากกรณี 7 คนไทยเข้าไปเก็บเห็ดหลงป่าล้ำเข้าไปในเขตแดน สปป.ลาว และถูกควบคุมตัวเมื่อเช้าวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทั้งหมดถูกนำไปกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิด19 ที่เมืองปทุมพร แขวงจำปาสัก เป็นเวลา 14 วัน และมีข่าวลือสะพัดว่าทั้ง 7 คน จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบ mRNA จนคนสนใจจำนวนมากและคิดจะชักชวนกันไปหาเห็ดเพื่อจะได้ถูกจับแล้วเข้าไปฉีดวัคซีนที่ สปป.ลาว นั้น

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า กรณีการควบคุมตัวคนไทยที่เข้าไปหาของป่าแล้วหลงเข้าไปในพื้นที่ของ สปป.ลาว 7 คน ทางจังหวัดอุบลราชธานีได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ประสานไปทางสถานกงสุลใหญ่แห่ง สปป.ลาว ในการช่วยเหลือนำตัวคนไทยกลับมา แต่ทั้งหมดยังอยู่ในการควบคุมตามมาตรการควบคุมโรคของทางการลาว โดยต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน และจะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมายของลาวก่อน

ส่วนประเด็นการฉีดวัคซีน mRNA ที่มีข่าวลือนั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการฉีด หรือการประสานมาจากทางการลาวว่า จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับ 7 คนไทยที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด และเรื่องนี้อาจจะทำให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากมีการนำไปเปรียบเทียบเรื่องของการฉีดวัคซีน

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาวที่เชื่อถือได้ กล่าวว่า ทุกคนที่เข้าไป สปป.ลาว จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกคน สำหรับคนไทยที่ถูกจับทั้ง 7 คนก็เช่นกัน จะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน โดยวัคซีนที่จะได้รับเป็นวัคซีนแอสตราเซเนกา หรือ ซิโนฟาร์ม ส่วนที่บอกว่าจะได้รับการฉีด mRNA ยี่ห้อไฟเซอร์นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะยี่ห้อนี้มีน้อยฉีดเฉพาะในเวียงจันทน์เท่านั้น