เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเล็กยังเดินหน้าเรียกร้องให้วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใช้สูตรหาร 500 ว่าพรรค พท.ยังคงยืนยันใช้สูตรหาร 100 ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนแนวคิดการหาร 500 นั้น พวกเราเชื่อว่าขัดรัฐธรรมนูญและจะมีปัญหาในการปฏิบัติ ฉะนั้นทางเดียวคือจะต้องใช้สูตรหาร 100

เมื่อถามว่าการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้ทุกคะแนนมีความหมายหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ในคณะกรรมาธิการมีการคุยในเรื่องนี้เช่นกัน และได้มีการแก้ไขไม่ให้มีคะแนนขั้นต่ำเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีคะแนนเสียงที่ถูกทิ้ง เพราะทุกคะแนนต้องนำมาคำนวณ

เมื่อถามต่อว่าถ้าเป็นสูตรหาร 500 จะเป็นการดับฝันพรรค พท. ที่ต้องการจะแลนด์สไลด์หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ว่าจะสูตรใดก็ไม่กังวล แต่ที่เสนอให้หาร 100 เป็นเพราะต้องการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนปัญหาที่ในรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้มี ส.ส.พึงมีอยู่นั้น ต้องยอมรับว่าในรัฐธรรมนูญยังมีอยู่จริงๆ แต่ปัญหาคือจะคิดคำนวณ ส.ส.พึงมีอย่างไร เพราะในรัฐธรรมนูญอีกมาตรา 91 กำหนดให้วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะต้องเป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์กันโดยตรง

นายสุทินยังกล่าวถึงกรณีการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลมาตลอดจนถึงวันนี้ ยังไม่มีอะไรสะดุด ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ กำลังเตรียมข้อมูลให้ชัดและคมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังไม่มีการพูดคุยกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่คาดว่าไม่สัปดาห์นี้ก็สัปดาห์หน้าจะมีการนัดหมายเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว 

ส่วนสิ่งที่ฝ่ายค้านต้องการฝากไปบอกรัฐบาลคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตรวจสอบตามหน้าที่ของฝ่ายค้านและตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง 1 ปีกำหนดไว้เพียงแค่ 1 ครั้ง ถ้ารัฐบาลขี้เหนียวเวลาในการอภิปราย ก็มองได้ว่า 1.ฝ่ายรัฐบาล พยายามด้อยค่าการตรวจสอบให้ไม่มีประสิทธิภาพ โดยการลดเวลาให้การอภิปรายให้สั้นที่สุด และ 2.ฝ่ายรัฐบาลหวาดกลัวการอภิปราย โดยเห็นได้จากการบีบเวลาให้เหลือน้อยที่สุดและการตั้งองครักษ์ถึง 2 ชุด แสดงให้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลวิตกกังวลเป็นอย่างมาก

“ฝ่ายค้านทราบดี ถ้าอภิปรายนานเกินพอดี จะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายค้านเอง ชาวบ้านจะรู้สึกเบื่อที่จะฟัง การที่เราขออภิปราย 5 วัน และอีก 1 วันเป็นการลงมตินั้น แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับบอกให้ 3-4 วัน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเจรจากันอีก ไม่ต้องให้ประธานนัดคุยกันให้เสียเวลา ขอให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาจะดีกว่า ที่กำหนดไว้ว่าต้องอภิปรายให้ครบจำนวนรัฐมนตรีที่ได้ยื่นไป ซึ่งครั้งนี้คือ 11 คน ไม่เช่นนั้นไม่สามารถปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ขณะเดียวกัน ข้อบังคับก็ยังเขียนป้องกันไว้อย่างครอบคลุมว่า ห้ามอภิปรายพร่ำเพรื่อ กินเวลาและซ้ำซ้อน” นายสุทิน กล่าว