นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทยร่วมลงทุนกับกลุ่ม บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส หรือเจเอ็มที จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด หรือเจเค เอเอ็มซี เพื่อทำหน้าที่บริหารหนี้ด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) ที่ปัจจุบันมีการเร่งตัวสูงขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทยมีแผนโอนขายเอ็นพีแอลให้เจเค เอเอ็มซี 50,000 ล้านบาท ภายในปี 65 ประเดิมในลอตแรกแล้ว 30,000 ล้านบาท ส่งผลให้เอ็นพีแอลธนาคาร และการตั้งสำรองในอนาคตของธนาคารลดลง ทำให้ธนาคารมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ได้

สำหรับบริษัทเจเค เอเอ็มซี เป็นอีกทางเลือกในการบริหารหนี้เสียของธนาคาร เพิ่มเติมจากการบริหารจัดการเองภายใน หรือการเปิดประมูล โดยธนาคารจะเลือกวิธีการบริหารที่มีประสิทธิภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ในส่วนของการขายหนี้เสียให้เจเค เอเอ็มซี นอกจากธนาคารจะได้รับเงินจากการขายหนี้แล้ว ธนาคารจะได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไรของการบริหารหนี้จากเจเค เอเอ็มซี ด้วย ในฐานะผู้ถือหุ้น 50% ซึ่งธนาคารลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด กล่าวว่า เจเค เอเอ็มซี จะรับหนี้เอ็นพีแอลทั้งหนี้เสียทั้งที่มีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน จากธนาคารกสิกรไทย สถาบันการเงิน หรือบริษัทอื่นๆ มาบริหารจัดการ โดยตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายใน 3 ปีนี้ โดยจะมีพอร์ตอยู่ที่ 100,000 ล้านในปี 68

ทั้งนี้ศักยภาพทางธุรกิจของเจเคเอเอ็มซี ที่จะส่งเสริมให้ไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจได้คือ ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารหนี้ของเจเอ็มที, การใช้ช่องทางต่างๆ ของธนาคารช่วยประชาสัมพันธ์ทรัพย์เอ็นพีเอไปสู่ลูกค้าที่สนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์เอ็นพีเอทั่วประเทศ และโอกาสเพิ่มมูลค่าธุรกิจอื่นๆ ให้ครบวงจร เช่น การรับปรับปรุงบ้านให้กับผู้ซื้อทรัพย์ด้อยคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล การช่วยเหลือลูกค้าที่มีประวัติเครดิตที่ดี เป็นต้น โดยบริษัทเจเค เอเอ็มซี ได้ถูกจัดตั้งอย่างเป็นทางการ และเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้เป็นต้นไป

นายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท และกรรมการ บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส กล่าวว่า ความเปราะบางของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยิ่งจะทำให้สถานการณ์หนี้ด้อยคุณภาพมีโอกาสเพิ่มขึ้น ซึ่งหนทางในการแก้ปัญหาหนึ่งในนั้นคือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งเสริมการนำกลไกของเอเอ็มซี มาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด ทำให้กสิกรไทยและเจเอ็มที ได้หารือกันเพื่อตอบสนองนโยบายของ ธปท.

รายงานข่าวจาก ธปท. ระบุว่า ตามเกณฑ์ของ ธปท.เปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์ บริษัทแม่หรือบริษัทลูกธนาคารร่วมทุนกับบริษัทเอเอ็มซี จัดตั้งบริษัทเจวีเอเอ็มซีได้ เริ่มมีผลวันที่ 27 ม.ค.65 และให้จัดตั้งแล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค.67 โดยรับซื้อเอ็นพีแอลและเอ็นพีเอในประเทศเท่านั้น มีเงื่อนไขมาตรการร่วมทุนนี้จะเป็นชั่วคราว ต้องจัดการหนี้และปิดกิจการภายใน 15 ปี ซึ่งในไตรมาสแรกปี 65 หนี้เอ็นพีแอลธนาคารพาณิชย์รวมอยู่ที่ 531,900 ล้านบาท