จากกรณีเหตุโศกนาฏกรรม หม้อแปลงระเบิด ไฟลุกไหม้สายไฟฟ้าและสายสัญญาณ ลุกลามเข้าบ้านเรือนและร้านค้าย่านสำเพ็ง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในแต่ละจังหวัดทั่วไทยต่างก็พบปัญหาสายไฟพาดผ่านพื้นที่ชุมชนจำนวนมากทั้งของเก่าและใหม่ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าหากยังคงปล่อยไว้จะเกิดความปลอดภัยหรือไม่ เริ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ในพื้นที่ ถนนสายวังสิงห์คำ-ป่าตัน-บ้านท่อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงของหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ผ่านตลาดเมืองใหม่ มาตามถนนจนถึงชุมชนวังสิงห์คำ ชุมชนป่าตัน และชุมชนบ้านท่อต่อเนื่องเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร พบว่ามีสายไฟฟ้า และสายสัญญาณต่างๆ จำนวนมากห้อยระโยงระยางไปกับเสาไฟฟ้าหลายจุด ที่มีการปล่อยให้สายเหล่านี้ห้อยย้อยลงมาลากพื้นดิน และบางจุดมีร่องรอยของการเกิดไฟไหม้มาก่อนเหลือแต่สายโลหะข้างใน ยังไม่มีการรื้อถอนออกไปอีกด้วย

ส่วนที่ จ.พิษณุโลก บนถนนเอกาทศรถ ชาวบ้านแจ้งว่า พบว่าสายไฟฟ้าและสายสื่อสารหลายจุดที่ยังมีระโยงระยาง ไม่เป็นระเบียบ และเป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ โดยที่ผ่านมาทางการไฟฟ้าจังหวัดพิษณุโลก ได้มีการจัดระเบียบสายไฟฟ้าและสายสื่อสารไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็เริ่มกลับมามีสภาพเดิมคือ สายไม่เป็นระเบียบ

ขณะเดียวกัน บริเวณริมถนนพหลโยธิน ใกล้ สภ.เมือง เขตเทศบาลเมืองสระบุรี มีสายไฟฟ้าและสายเคเบิล ห้อยระโยงระยางหลายสาย แถมบางสายยังหล่นลงมาเกือบถึงพื้นริมฟุตปาธทางเดินเท้า ทั้งนี้ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า ที่บริเวณริมถนนสุดบรรทัด เขตเทศบาลเมืองสระบุรี ย่านธุรกิจ ยังเคยเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรเกิดไฟลุกไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นดับไว้ได้ทัน ปัจจุบันยังไม่มีการแก้ไข ยังคงมีสภาพอย่างที่พบเห็น.

ที่หน้าหมู่บ้านพุทธรักษา ถนนมะขามหวาน บ้านกกม่วงชี ต.กุดป่อง อ.เมือง จ.เลย ซึ่งเป็นถนนอีกสายหนึ่งที่มีการใช้สัญจรไปมาและมีรถจำนวนมาก ปรากฏว่าพบสายสื่อสารตกลงมาอยู่ที่พื้นดิน ระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร ชาวบ้านที่ใช้ถนนสัญจรผ่านไปมาเกรงว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งก่อนที่สายสื่อสารจะตกลงมาอยู่ที่พื้นที่ดิน เนื่องจากได้ถูกพายุพัดจนเสาไฟฟ้าหักโค่นล้ม เหตุเกิดขึ้นมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว จึงทำให้สายสื่อสารต่างๆ ตกลงพื้นดิน ยังไม่ได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด.