เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย แสดงความเป็นห่วงว่านโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ อาจกระทบเรื่องการท่องเที่ยว ว่าตนเข้าใจว่าท่านหมายถึง เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย แล้วมาทานอาหารที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เมื่อกลับไปถึงประเทศ แล้วตรวจเจอสารตกค้างจะผิดกฎหมาย แล้วจะกลายเป็นว่า นักท่องเที่ยวกลัวไม่เดินทางมาไทย ตรงนี้ขอให้ท่านคลายความกังวลแล้วมองกันที่ความเป็นจริง เวลาท่านเดินทางไปประเทศไหน ท่านต้องศึกษาหาความรู้ ว่าอะไรทำได้ อะไรไม่ควรทำ ใช่หรือไม่

นักท่องเที่ยวก็ต้องหาข้อมูลเหมือนกัน กรุณาคลายความกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะถ้าเป็นไปตามที่ท่านสื่อสาร ประเทศที่คลายล็อกเรื่องการใช้กัญชา ภาคการท่องเที่ยวต้องล่มสลายแล้ว แต่ในความเป็นจริง ประเทศเหล่านั้นสามารถใช้กัญชา สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นจุดแข็งขึ้นไปอีก ท่านรู้หรือไม่ ปัจจุบันตลาดการท่องเที่ยวเกี่ยวกับกัญชาโลกมีมูลค่า 17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของ Forbes และนักท่องเที่ยวอีกเกือบ 30% จากทั่วโลก สนใจบริโภคกัญชา นี่คือโอกาสของประเทศไทย ที่สำคัญกัญชาจะเข้ามาตอกย้ำความเป็นเลิศของไทย ในด้านของ Medical Hub ที่ทลายทุกข้อจำกัด เพื่อยกระดับภาคการท่องเที่ยวแบบ Health Tourism

นายศุภชัย กล่าวว่า เราอย่าเอาความคิดตัวเองมาปิดบังโอกาส แต่ต้องกล้าเดินไปข้างหน้า แล้วเลิกปรามาสสติปัญญาคนอื่น มั่นใจได้ ว่านักท่องเที่ยว เมื่อจะใช้ จะทำ จะทานอะไร ล้วนคิดมาดีแล้ว และไทยเองก็มีกฎหมายมากมายออกมาควบคุม ทั้งห้ามสูบในที่สาธารณะ ทั้งห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี โทษสูงทั้งจำทั้งปรับ มีประกาศกรมอนามัยเรื่องการให้ร้านอาหารกัญชา ต้องติดป้ายบอก

“ผมมั่นใจว่าคนไทย และชาวต่างชาติเรียนรู้กับการอยู่ร่วมกับกัญชาได้แน่นอน เพราะนี่เราคลายล็อกกันมาตั้งแต่ 9 มิ.ย.65 ถ้าเป็นแบบที่หลายคนกลัว ป่านนี้เดินไปไหนมาไหน ต้องเหม็นกัญชา คนพี้ ต้องเต็มถนน คนเมากัญชาขับรถชนคนทุกวัน ซึ่งในความเป็นจริง มันไม่มี เห็นแต่คนได้ใช้กัญชา รักษาโรค บรรเทาความเจ็บป่วย เห็นแต่ร้านค้า ร้านอาหาร ที่นำกัญชามาเพิ่มมูลค่าอาหารเครื่องดื่ม แน่นอนมันอาจจะมีความขลุกขลักบ้าง แต่เราจะเอาปัญหาเล็กน้อย มาทำลายทุกความหวังของคนไทยเชียวหรือ ทั้งเรื่องสุขภาพ และเรื่องเศรษฐกิจเลยนะ ณ จุดนี้ ขอเรียนตามตรงว่า ผมไม่เห็นวิกฤติที่ท่านเห็น เห็นแต่โอกาสที่มันกำลังเกิดขึ้น” นายศุภชัย กล่าว