เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” คณะทำงานและติดตามผลงาน ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระเยา เขต 1 พาครอบครัวของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหายในคดีข่มขืนเด็กหญิงวัย 15 ปี เข้าพบกับ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เพื่อทวงถามความคืบหน้าทางคดี และกระแสข่าวที่ผู้ต้องหาออกมากล่าวอ้าง ประเด็นการจ่ายเงินกับร้อยเวรจนทำให้ได้รับการประกันตัวออกมา แล้วมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง

โดย “กัน จอมพลัง” เผยว่า คดีนี้ คนร้ายลงมือข่มขืน ด.ญ.ผู้เสียหายอายุเพียง 15 ปี แล้วยังถ่ายคลิปแบล็กเมล์ มีการนำคลิปมาขู่หลังข่มขืนเสร็จแล้ว พอแจ้งความจับกุม อีกฝ่ายกลับได้รับการปล่อยตัว ทั้งยังอ้างว่ามีการจ่ายใต้โต๊ะให้ตำรวจ บอกว่าน่าสงสารจังเลย คำพูดลักษณะคล้ายเยาะเย้ยเหยื่อ แถมไม่รู้จักเข็ดหลาบ กลับมาก่อเหตุข่มขืนน้องผู้เสียหายอีก มีการตั้งกล้างวงจรปิดในห้องบันทึกภาพเอาไว้ด้วย จึงอยากสอบถามว่าพฤติกรรมเช่นนี้ สมควรจะปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่

ด้าน นางบี (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ย่าของผู้เสียหาย กล่าวว่า ไม่เคยรู้จักกับคนร้ายมาก่อน มีแต่หลานสาวเอาภาพการแชตมาให้ดู ทำให้รู้ว่ามีการข่มขู่จะมาหาตนและครอบครัวที่บ้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้จับกุมไปแล้ว แต่กลับปล่อยตัวออกมาอีก อายุก็เกือบ 40 ปี ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเลวซ้ำซากกับหลานสาวตนได้ แล้วทำไมกฎหมายทำอะไรไม่ได้เลยหรือ

ด้าน นายซี (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี บิดาของ ด.ญ.เอ ให้การอ้างว่า หลังทราบเรื่องรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก วางแผนจับกุมตัวแต่ก็ไม่สำเร็จ อีกฝ่ายยังคงท้าทายให้เข้าไปหา เพราะเตรียมพรรคพวกตั้งโต๊ะจีนรอไว้แล้ว แม้ตนเองจะมีเพื่อนฝูงมากมาย แต่ก็มีรุ่นพี่มีเตือนว่า ให้ปล่อยเป็นเรื่องของกฎหมาย ส่วนเรื่องที่ว่าตำรวจรับเงินหรือไม่นั้น เชื่อแค่ 50-50 เท่านั้น

ต่อมาในช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพาตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพิ่มเติมและแจ้งข้อกล่าวหา ปรากฏว่าญาติของผู้เสียหายต่างวิ่งเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ จนเกิดการชุลมุนอยู่พักใหญ่ โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถกันตัวผู้ก่อเหตุเข้าไปในโรงพักได้สำเร็จ จากการสอบสวนให้การอ้างว่า ตนได้รับการประกันตัวออกมาและขอสู้คดี ส่วนที่ว่าเป็นการพูดเล่นทำนองว่าจ่ายเงินให้ตำรวจ ไม่ได้มีการจ่ายจริงแต่อย่างใด เป็นการพูดเล่นกับผู้เสียหายเท่านั้น และยังอ้างว่าเด็กผู้เสียหายชอบโทรฯ มายืมเงิน 200-300 บาท ทำเหมือนขายบริการ รอบแรกซื้อในราคา 1,500 บาท โดยมีเพื่อนรุ่นพี่ของผู้เสียหายพามาส่ง ตนมีหลักฐานการแชตทั้งหมด ส่วนครั้งล่าสุด วานนี้ผู้เสียหายโทรศัพท์ให้ตนไปรับ บอกว่าไปไหนก็ได้ ตอนแรกบอกว่าจะให้ไปบังกะโลแถวราษฎร์บูรณะ ตนจึงบอกว่าไปตรงนี้ก็ได้แถวบางพลี ส่วนภาพที่ถ่ายในห้องนั้น เป็นการเซฟตัวเอง เพราะผู้เสียหายมักโทรฯ มาขอยืมเงิน พอตนไม่ให้ก็จะโดนขู่

ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คดีนี้ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุม ตามหมายจับของ สภ.บางพลีแล้ว ในคดีข้อหาพรากผู้เยาว์ และอนาจาร เป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ณ ตอนนั้น ทางพนักงานอัยการก็ได้มีการคืนสำนวนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เนื่องจากมาทราบในภายหลังว่า ผู้ต้องหามีการถ่ายคลิป และได้มีการโพสต์ลงสื่อโซเชียล จึงได้มีการคืนสำนวนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทำให้ตัวของผู้ต้องหาที่มีการส่งไปให้อัยการก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจควบคุมตัวก็เลยคืนตัวผู้ต้องหามา

จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ครั้งล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหากลับไปก่อคดีใหม่กับตัวผู้เสียหายอีกครั้ง ทำให้ทางผู้ปกครองของผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลายเป็นคดีใหม่อีกคดี เบื้องต้นแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเรา ส่วนประเด็นที่ผู้ต้องหาได้มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง ในส่วนประเด็นที่ผู้เสียหายอ้างว่า เพื่อนชวนไปทำงานและให้ไปพบก่อนเจอตัวผู้ก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการนำตัวเพื่อนมาสอบปากคำเพิ่มเติมเช่นกันว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากวันนี้สอบสวนผู้ต้องหาเสร็จ ทางตำรวจจะนำตัวผู้ก่อเหตุส่งพนักงานอัยการทันที.