เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ยื่นคำร้องฝากขัง นายชยันต์ ปาลพันธุ์ อายุ 47ปี ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ในเวลา กลางคืน เนื่องจากจะต้องทำการสอบสวนพยานอีก 6 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษ จึงขออนุญาตฝากขังผู้ต้องหาครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.65 เวลาประมาณ 05.40 น. ขณะที่ ผู้เสียหายอายุ 17 ปี ได้เดินข้ามสะพานลอยเพื่อไปยังฝั่งโรงเรียนหอวัง ระหว่างเดินมาถึงบนทางเท้าฝั่งโรงเรียนหอวัง ได้มี นายชยันต์ ผู้ต้องหา เดินมาประชิดตัวผู้เสียหาย แล้วพูดว่า “อย่าส่งเสียงดังนะให้เดินตามมา” ผู้เสียหายตกใจจึงไม่กล้าส่งเสียงดัง แล้วบอกว่า “ส่งโทรศัพท์มือถือมา” จึงต่อรองว่าเป็นเงินแทนได้หรือไม่ นายชยันต์ผู้ต้องหา จึงตอบตกลงและให้เอาเงินมา 20 บาท เมื่อผู้เสียหายหยิบกระเป๋าสตางค์จะหยิบเงินสดให้ 20 บาท นายชยันต์ผู้ต้องหามองเห็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท ผู้เสียหายจึงได้หยิบธนบัตรฉบับ 100 บาท ในกระเป๋าเงินของตนแล้วหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เหตุเกิดที่บนทางเท้าฝั่งโรงเรียนหอวัง

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 วรรคสอง มาตรา 335(1) ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน ระบุว่า หากผู้ต้องหายืนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้าน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี และยากต่อการนำมาดำเนินคดีในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังยื่นฝากขังแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป