จากกรณีชาวบ้านพบศพ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 75 ปี ถูกทำร้ายเสียชีวิตอยู่บนรถเข็นพร้อม จยย.จอดอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ภายหลังตำรวจพบว่าเป็นฝีมือของ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี บุตรชาย โดยใช้มีดแทงคอฟันหัวพ่อตัวเองหลายครั้งจนเสียชีวิตหน้าบ้านก่อนลากขึ้นรถไปทิ้งไว้ข้างทาง ภายหลังญาติให้การว่าผู้ก่อเหตุ น่าจะมีอาการทางจิตประสาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จับคาบ้านลูกทรพีฆ่าพ่อตัวเอง ลากศพทิ้งริมถนนญาติสงสัยป่วยทางจิต

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้ง เมื่อญาติของนายเอ ซึ่งกำลังเศร้าสลดต้องจัดเตรียมงานศพให้ผู้เสียชีวิตแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าได้เกินปัญหาขึ้นเกี่ยวกับการรับศพผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าหญิงของ รพ.ที่ส่งศพไปผ่าชันสูตร โทรศัพท์มาบอกให้โอนเงินค่าชันสูตร 3,500 บาท ทางญาติโอนไปให้แล้ว แต่ไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่รายเดิมก็โทรฯกลับมาบอกให้โอนอีก 4,500 บาท ญาติก็ยังโอนไปอีกครั้งที่เป็นครั้่งที่ 2 เข้าบัญชีหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเวลาผ่านไปไม่ถึง 10 นาที หญิงคนเดิม โทรฯมาอีกครั้ง คราวนี้บอกให้จ่ายค่าเอาศพออกจากโรงพยาบาลอีก 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 18,000 บาท ถึงตอนนี้ญาติไม่มีเงินให้แล้ว จึงคิดว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้นำเบอร์โทรศัพท์จากญาติ โทรฯติดต่อเพื่อถามถึงที่มาที่ไป ว่าเงินที่โอนไป 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 8,000 บาท โรงพยาบาลเป็นคนเรียกรับเงินหรือไม่ ปรากฏว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่หญิงรายเดิมรับสาย แต่กลับพูดจาบ่ายเบี่ยงประเด็น และจะไม่พยายามคุยด้วย สุดท้ายยอมรับว่าเป็นคนเรียกเงินเองเพราะต้องการเอาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วย และขอร้องไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปแจ้งโรงพยาบาล เพราะกลัวจะตกงาน โดยจะโอนเงินทั้งหมดคืนให้ทันที ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก เบื้องต้นทราบว่าหญิงสาวคนดังกล่าว ทำงานอยู่ที่แผนกเวศกิจฉุกเฉิน ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตเชื่อว่า นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดมีการโทรฯมาเรียกรับเงินอย่างแน่นอนจึงพากันไปแจ้งความไว้ก่อน และขอให้ทาง รพ.ที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป.