เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. ร.ต.อ.นิธิวัฒน์ สองสี รอง สว.(สอบสวน) สภ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบเผาศาลหลักเมือง รุดไปตรวจสอบภายในศาลหลักเมือง พบร่องรอยการถูกเผาที่บริเวณโคนเสาหลักเมือง และร่องรอยใช้มีดฟันบริเวณเสาหลักเมือง นอกจากนี้ยอดเสาของศาลหลักเมือง ซึ่งทำจากไม้พะยูง ถูกนำมาเผาอยู่ด้านนอกศาลหลักเมืองได้รับความเสียหาย

จากการสอบถามชาวบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีชายเร่ร่อน แบกกระสอบปุ๋ย เดินวนเวียนอยู่บริเวณศาลหลักเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า ถ้ากรณีมืออาชีพที่ต้องการเสาไม้หลักเมืองที่ทำด้วยไม้พะยูง จะต้องนำเครื่องมือโดยเฉพาะเลื่อยมาตัด แต่จากการที่ดูแล้ว คนร้ายใช้มีดฟัน เพื่อต้องการฟันให้เสียหายมากกว่า แล้วเอายอดเสาของศาลหลักเมืองออกมาเผาข้างนอก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุต่อไป

สำหรับศาลหลักเมืองอำเภอน้ำยืน เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2538 เสร็จเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2540 ศาลหลักเมืองน้ำยืน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตัวเสาหลักเมืองทำด้วยไม้พะยูง แก่นล่อน ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในอำเภอน้ำยืน โดยในวันปกติแล้วจะมีชาวบ้านมากราบไว้ของพร บนบานศาลกล่าว และรอบๆ ศาลหลักเมืองน้ำยืนมีอากาศร่มรื่น ในช่วงเวลาเย็น จะมีคนมาออกกำลังกาย และนั่งพักผ่อนได้ ในช่วงเวลากลางคืน ศาลหลักเมืองน้ำยืนจะตกแต่งด้วยไฟสว่างสวยงาม สะดุดตามากเวลาขับรถผ่านไปมาในช่วงเวลากลางคืน ด้านหน้าและด้านหลังศาลหลักเมืองอำเภอน้ำยืน มีที่จอดรถกว้างขวาง และด้านหลังศาลหลักเมืองน้ำยืนยังเป็นตลาดอำเภอน้ำยืน เปิดตั้งแต่เช้าจดเย็น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ได้มีคนร้ายได้ก่อเหตุลอบเผาศาลเจ้าปู่คันธนาม ตั้งอยู่ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน.