น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันรอบ 6 เดือนของปี 64 (ม.ค.-มิ.ย.) ลดลง 1.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 917,634 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ ที่ลดลง 53.9% เฉลี่ยอยู่ที่ 4.6 ล้านลิตรต่อวัน เพราะสถานการณ์โควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและการเดินทางโดยเครื่องบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ  ขณะที่การใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจีหรือก๊าซหุงต้ม) เพิ่มขึ้น 10.2% เฉลี่ยอยู่ที่ 16.5 ล้าน กก.ต่อวัน จากการใช้ในภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 21.8% มาอยู่ที่ 7.3 ล้านกก.ต่อวัน และการใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น 14% มาอยู่ที่ 1.9 ล้าน กก.ต่อวัน ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 4.7% อยู่ที่ 5.6 ล้าo กก.ต่อวัน แต่การใช้ในภาคขนส่งลดลง 12.6% มาอยู่ที่ 1.8 ล้าน กก.ต่อวัน

นอกจากนี้การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล 6 เดือนยังลดลง 1.1% เฉลี่ยอยู่ที่ 64.9 ล้านลิตรต่อวัน โดยเฉพาะถ้าพิจารณาปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วเฉพาะเดือน มิ.ย. 64 เทียบกับปีก่อนลดลงค่อนข้างมากจาก 62.7 ล้านลิตรต่อวัน มาอยู่ที่ 59.3 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ปีนี้ทวีความรุนแรงขึ้นและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวชัดเจน รวมถึงการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) ลดลง 18.6% เฉลี่ยอยู่ที่ 3.3 ล้านกก.ต่อวันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับจำนวนสถานีบริการและรถเอ็นจีวีที่ลดลง

สำหรับการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือน ม.ค.-มิ.ย.2564 ทั้งน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ไบโอดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และแอลพีจีลดลง 10.4% มาอยู่ที่ 182,487 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 11,641 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 30.9% ขณะที่ การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 0.2% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ 29.7 ล้านลิตรต่อวัน แต่ยังคงเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติ ซึ่งหากพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือน มิ.ย.2564 พบว่าการใช้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 12.2% มาอยู่ที่ 29.2 ล้านลิตรต่อวัน จากการเพิ่มขึ้นของทุกชนิดน้ำมันในกลุ่มเบนซิน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น ประกอบกับประชาชนบางส่วนได้รับวัคซีน