กรณีเพจดังแห่งหนึ่งได้โพสต์คลิปข้อความเด็กนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ถูกคนร้ายเป็นชาย 3 ราย แต่งกายสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่หมวก สวมหน้ากากอนามัย หนึ่งในนั้นสวมหมวกกันน็อก ขี่รถ จยย.ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ไอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอด ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนชายชั้น ม.5 ที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมเพื่อน โดยผู้โพสต์ระบุว่า เป็นการชิงเข็มพระเกี้ยวของสถาบันดังกล่าว ก่อนที่คนร้ายหลบหนีไปมุ่งหน้าปากซอยรามคำแหง 43/1

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 มิ.ย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณข้างโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เขตวังทองหลาง กทม. พบว่าอยู่ห่างจากประตู 2 ทางเข้า-ออกโรงเรียน ประมาณ 500 เมตร เป็นถนนสองเลน และทางบังคับเลี้ยวซ้าย อยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านธารารมณ์ บรรยากาศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากเส้นทางพบว่าคนร้ายหลบหนีมุ่งหน้าปากซอยรามคำแหง 43/1

โดยนายสุพัฒน์ อัตจริต รองผู้อำนวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารงานบุคคล เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 16.00 น. วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยหลังจากนักเรียนชายชั้น ม.5 เลิกเรียนแล้วได้เดินเท้ากลับบ้านพร้อมเพื่อน ก่อนถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้ามาข่มขู่โดยใช้อาวุธมีดเพื่อจะชิงเอาเข็มพระเกี้ยวไป โดยนักเรียนได้ทำการขัดขืนทำให้ถูกชกที่ใบหน้า ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถ จยย.หลบหนีไป โดยไม่ได้เข็มไป จากการสอบถามเด็กนักเรียนชั้น ม.5 กรณีดังกล่าว จึงเชื่อว่าเกิดขึ้นเพราะความคึกคะนองของฝ่ายผู้ต้องหา ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้ประชาสัมพันธ์ไปยังนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ที่ต้องติดเข็มพระเกี้ยวทั้งชายและหญิงว่า ระยะนี้หลังเลิกเรียนขอให้ถอดเข็มออกก่อน จึงเดินทางกลับบ้านและไม่ให้เถลไถลไปไหน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ ทั้งนี้และมีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง เพื่อตรวจสอบตรวจตราเพิ่มความถี่บริเวณโดยรอบโรงเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก

ต่อมาเวลา 12.00 น. ตำรวจ สน.วังทองหลาง พร้อมตำรวจ กก.สส.บก.น.4 ร่วมกัน จับกุม 3 เยาวชน ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน ม.5 โรงเรียนบดินทรเดชา ได้แล้ว โดยทั้งหมดถูกนำตัวเข้าสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง

พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 เดินทางมาที่ สน.วังทองหลาง เพื่อสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า ทั้ง 3 คน เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี ยังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษา 2 คน และไม่ได้เรียนหนังสือ 1 คน โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักในซอยรามคำแหง 39 พร้อมของกลาง อาวุธมีด รถ จยย.ที่ก่อเหตุ รวมถึงเสื้อผ้าที่ใส่ ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะความคึกคะนอง อยากได้พระเกี้ยวไปห้อยกับโซ่ติดเสื้อ แต่ไม่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน และไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายมาก่อนเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุกำลังจะไปซื้อของ แต่เมื่อขี่มาใกล้กับจุดเกิดเหตุ เห็นกลุ่มผู้เสียหายเดินอยู่ จึงเกิดความคึกคะนอง ลงมือทำร้ายร่างกายและข่มขู่จะเอาตราพระเกี้ยว แต่ผู้เสียหายฮึดสู้ไม่ยอมให้ ทำให้หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุชกเข้าที่ใบหน้าแล้วหลบหนีไป โดยที่ไม่ได้พระเกี้ยวไปอย่างใด ก่อนจะหลบหนีกลับไปที่บ้าน และถูกตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมียานพาหนะ ร่วมกันพกพาอาวุธมีด และพยายามทำร้ายร่างกาย ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และคุมตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า ภายหลังจากเกิดเหตุและกลายเป็นข่าว ทาง 3 เยาวชนได้ชำแหละซากรถ จยย. เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้ และขณะสอบปากคำ ทั้ง 3 คน อยากขอโทษผู้เสียหายกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป.