เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2565 ซึ่งการจัดพิธีในครั้งนี้จัดพร้อมกันทั่วประเทศผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ ไปยังสำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง (ดินแดง) และสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1-9
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวช่วงหนึ่ง ชี้ให้เห็นปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง ยาวนาน และรุนแรง รัฐบาลให้ความสำคัญกับวาระป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและได้ปรับปรุงกฎหมายยาเสพติด พร้อมยอมรับมีความกังวลเรื่องงผู้เสพรายใหม่ หลังถอดยาเสพติดบางชนิดออกจากบัญชี ดังนั้นต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงพิษภัยยาเสพติดที่มีต่อตนเอง และสังคม โดยต้องบรรจุในหลักสูตรการศึกษาในระดับต่างๆ พร้อมขอเจ้าหน้าที่ปฏิบัติวางตัวอย่างเหมาะสม จากสถิติปี 2561-2565 พบว่า การจับกุมลดลงตามลำดับ โดยในปี 2565 มีสถิติการจับกุม 34,957 คดี ขณะที่ปี 2561 มีถึง 90,000 คดี เนื่องจากมีการใช้มาตรการต่างๆ มาควบคุม และได้รับความร่วมมือทั้งจากในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีฐานการผลิตที่สามเหลี่ยมทองคำ ขณะที่ผู้เข้ารับการรักษา 74,720 คน จากก่อนหน้านี้มีถึง 200,000 คน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธีมอบโล่แก่องค์กรที่มีผลงานดีเด่นในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 65 ว่า สถานการณ์การแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดมีความก้าวหน้าทั้งด้านกฎหมายการจับกุม การป้องกันและการบูรณาการร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตก อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่นๆ ให้สอบถามจาก รมว.ยุติธรรม
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าภายหลังจบงานนายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนที่ผู้สื่อข่าวส่วนใหญ่จะมาถึงบริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรี และเมื่อพูดจบก็เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงเลี่ยงตอบคำถามสื่อมวลชนถึงประเด็นการเมืองต่างๆ ตั้งแต่ในช่วงเช้า ที่ได้ปฏิเสธตอบคำถามกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ประกาศล้มรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ภายหลังไทยปรับเปลี่ยนกฎหมายยาเสพติดฉบับเก่าทั้งหมด 24 ฉบับ และมีประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เขียนขึ้นมาใหม่ พบสถิติคดีการจับกุมยาเสพติด ยาที่ออกมาจากสามเหลี่ยมทองคำลดลง ในส่วนของผู้ต้องหาจากเดิมที่เคยถึง 356,000 คน ขณะนี้ 8 เดือนกว่าเหลือ 188,000 คน ในส่วนของจำนวนคดีจากเดิมที่เคยมี 341,000 คดี ปัจจุบันเหลือแค่ 182,000 คดี ถือเป็นตัวเลขที่ลดลงมากจากจำนวนยาเสพติดและข้อหาสำคัญๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นถือว่านโยบายของรัฐบาลที่มีกฎหมายใหม่เรื่องประมวลกฎหมายยาเสพติดสัมฤทธิผล.