เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. น.ส.ปิยชาติ ฐิตะภาส หรือแม้ว นางแบบ พิธีกร พริตตี้สาว เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐพล ทะเลน้อย รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. แจ้งความกรณีโดนมิจฉาชีพนำรูปภาพไปสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมจำนวนกว่า 30 บัญชี ก่อนนำไปหาเพื่อนหลอกลวงเทรดหุ้นและลงทุน

น.ส.ปิยชาติ กล่าวว่า เมื่อ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะอยู่ที่คอนโดฯ ที่พักย่านสุขุมวิท 77 มีเพื่อนทักมาทางไลน์ พร้อมส่งภาพแคปหน้าจอเป็นรูปเฟซบุ๊กที่มีรูปภาพตนเป็นโปรไฟล์ แจ้งว่าเฟซบุ๊กดังกล่าวมีการนำไปหลอกลวงให้โอนเงิน ซึ่งตนไม่เกี่ยวข้องรู้เห็นแต่อย่างใด จึงไปแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สน.พระโขนง แต่คดีไม่คืบหน้า อีกทั้ง ช่วงปลายปีที่แล้วก็โดนปลอมแต่ไม่มาก มีแค่ 1-2 บัญชี ขอให้เพื่อนๆ ช่วยกันรีพอร์ตบัญชีเฟซบุ๊กปลอมจนปิดไปได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงคดีไม่คืบหน้า หนำซ้ำคนร้ายได้นำรูปโปรไฟล์ ซึ่งเป็นภาพของตนมาเปิดเฟชบุ๊กใหม่ มีแต่ใช้ชื่อบัญชีเป็นชื่ออื่นเท่านั้น ต่อเนื่องจนถึงเดือน มิ.ย.

นอกจากนี้ตนได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีคนนำรูปภาพจากเฟซบุ๊กและอินสตาแกมบัญชีชื่อ Piyachat Thitabhasa ไปสร้างเฟซบุ๊กปลอมอีกจำนวนกว่า 30 บัญชี โดยใช้ชื่อต่างๆ เช่น Variya Lanlar, Farsai Fartina, เมษา นพเกตุ โสดค่ะ เป็นต้น อีกทั้งยังเอาไปปลอมอินสตาแกรม และใช้ในเว็บหาคู่อีกด้วย ให้เพื่อนช่วยกันรีพอร์ตก็ไม่สำเร็จ เพราะแต่ละบัญชีจะมีเพื่อนที่หลงเชื่อจำนวนมาก บางบัญชีมี 2-3 พันคน ซึ่งบัญชีจริงของตนมีเพื่อนแค่ 400 คน คนติดตามเกือบ 5 พันคน ทางเฟซบุ๊กจึงไม่รู้จะเชื่อใครระหว่างเฟซจริงกับเฟซปลอม อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เริ่มหนักขึ้นเพราะคนร้ายได้หลอกคนที่รู้จักให้ลงทุน เทรดซื้อขายหุ้น เงินตรา ลงทุนทองคำ ไบแนนซ์ต่างๆ แต่ดีที่ตน ทักไปก่อน จึงไม่หลงตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ตอนนี้ตนได้รับความเดือดร้อนมาก ต้องเปลี่ยนสถานะบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกมเป็นส่วนตัวหมด เปิดเป็นสาธารณะไม่ได้ เพราะถ้าเราโพสต์ภาพอะไรก็จะถูกคนร้ายเซฟเอาไปโพสต์ในบัญชีปลอมสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อหลอกลวงทันที นอกจากจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแล้ว ยังส่งผลกระทบธุรกิจการงาน สูญเสียรายได้ เพราะเจ้าของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า เครื่องสำอางยกเลิกงานรีวิวสินค้าไปเนื่องจากคนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาดูได้ เคยมีเพื่อนช่วยอินบ็อกซ์ไปต่อว่าขอร้องให้หยุด เขาก็ตอบกลับมาว่า “ไม่หยุดแล้วจะทำยังไง” จึงมาร้องเรียนตำรวจ ปอท.ให้ดำเนินการ