เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. ให้การต้อนรับและหารือการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับนายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิฯ และคณะ โดยมีนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) นายสมยศพุ่มน้อย รองอธิบดีปค. นายนิวัติ น้อยผาง รองอธิบดี พช. น.ส.นิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน พช. นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการปกครองท้องที่ ปค. ร่วมหารือ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พช.ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อส่งเสริมสนับสนุนอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนให้สามารถบริหารจัดการชีวิตได้อย่างเหมาะสม และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งเป็นการตอบสนองการขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ โดยใช้กระบวนการบริหารจัดการชีวิตครัวเรือนยากจนแบบบูรณาการ 4 กระบวนงาน คือ กระบวนงานที่ 1 ชี้เป้าชีวิต กระบวนงานที่ 2 จัดทำเข็มทิศชีวิต กระบวนงานที่ 3 บริหารจัดการชีวิต และกระบวนงานที่ 4 ดูแลชีวิต ผ่านการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนยากจนที่ตกเกณฑ์รายได้ จากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ข้อที่ 22 รายได้เฉลี่ยของคนในครัวเรือนต่อปี น้อยกว่า 38,000 บาทและเป็นครัวเรือนที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาได้ โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้การสนับสนุนวัสดุ/อุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 4 ประเภท ได้แก่ ค้าขาย หัตถกรรม ช่าง และบริการรับจ้าง แก่ครัวเรือนยากจนที่ผ่านการฝึกอบรมหรือมีอาชีพแล้ว ในวงเงินไม่เกินครัวเรือนละ 30,000 บาท

“การดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในการขับเคลื่อนขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.) ซึ่งมีเป้าหมายที่สำคัญ คือ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. 2562 ด้วยกระบวนการบริหารจัดการครัวเรือนยากจนแบบบูรณาการ ชี้เป้าชีวิต จัดทำเข็มทิศชีวิต หรือแผนชีวิต บริหารจัดการชีวิต และดูแลชีวิต ตลอดจนดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดย พช.ทำการสำรวจครัวเรือนยากจนเป้าหมายที่ต้องการอาชีพ จัดกลุ่มแยกประเภทอาชีพที่ต้องการขอรับการสนับสนุนองค์ความรู้ และทักษะต่างๆ ที่ใช้ในการประกอบอาชีพ วิเคราะห์ศักยภาพครัวเรือนยากจน เพื่อกำหนดครัวเรือนยากจนเป้าหมาย และแนวทางการสนับสนุน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่ครัวเรือนยากจนที่ผ่านการจัดกลุ่มมาแล้ว จากนั้นทั้งสองหน่วยงานจะสื่อสารสังคมสร้างการรับรู้ และติดตามประเมินผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ และนำผลการประเมินมาพัฒนาช่วยเหลือคนยากจนและคนที่ด้อยโอกาส ให้มีเครื่องมือในการประกอบอาชีพให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อยู่ในสังคมอย่างมีความสุขต่อไป” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ปค. ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อใช้ในการสำรวจข้อมูลพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองทุกเรื่อง เพื่อการแก้ไขปัญหารายครัวเรือนแบบพุ่งเป้าและตรงตามสภาพปัญหา โดยมีนายอำเภอเป็นผู้นำในการสำรวจข้อมูลครัวเรือนที่ประสบปัญหาเพิ่มเติม โดยข้อมูลจากระบบ Thai QM ที่ควรนำมาใช้ในการบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกันเพิ่มเติม 7 กลุ่มปัญหา ได้แก่ 1.บ้าน/ที่อยู่อาศัย 2.น้ำดื่ม/น้ำใช้ 3.การศึกษา 4.รายได้และอาชีพ 5.ความปลอดภัย 6.กลุ่มเปราะบาง และ 7.ความเดือดร้อนที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเอง นอกจากนี้ ในด้านการบรรเทาสาธารณภัย ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมีแผนการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย เพื่อฝึกอบรมด้านการบรรเทาสาธารณภัย มท.จะได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) หารือถึงแนวทางที่จะสามารถดำเนินการร่วมกันเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึงต่อไป

ด้านนายวิเชียร กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กับ พช. ในการขับเคลื่อนตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว จะมีการพัฒนาอาชีพในรูปแบบโคก หนอง นา ภายใต้บันทึกข้อตกลง ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อครัวเรือนยากจนที่สนใจ ซึ่งในขณะนี้ มีจำนวน 12 ครัวเรือน จากพื้นที่ 10 จังหวัด นอกจากนี้ ในการดำเนินงานระยะที่ 4 จะขับเคลื่อนดำเนินการในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาสปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา ระนอง สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี และจากการลงพื้นที่ดำเนินการที่ผ่านมาพบว่า การบริการของหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่ได้มีการออกหน่วยร่วมบริการตรวจรักษาโรคทั่วไป การมอบแว่นตา บริการตัดผม และตรวจคัดกรองเบาหวาน พร้อมกับการมอบวัสดุอุปกรณ์ให้กับครัวเรือนเป้าหมายที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จะให้มีการบริการร่วมด้วยในครั้งต่อไปพร้อมทั้งจะพิจารณาสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือให้กลุ่มอาชีพที่จัดตั้งตามแนวทางสัมมาชีพชุมชน โดยเป็นกลุ่มที่มีจำนวนสมาชิกเป็นคนในชุมชน ไม่น้อยกว่า 20 คน หรือมีการจ้างงานคนในชุมชนอีกด้วย.