เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ บ้านเอื้ออาทรนนทบุรี (บางใหญ่ซิติ้) อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช. (ช่วยเหลืองาน ปป.)/ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีส่งต่อความยั่งยืน และความสำเร็จโครงการชุมชนการเคหะยั่งยืนแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน ว่า โครงการฯเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างการเคหะแห่งชาติกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดใยชุมชน หมู่บ้าน โดยเสริมสร้างให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง เข้าใจและรับรู้ปัญหาพิษภัยที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด ซึ่งผลการปฏิบัติทั่วประเทศ 20 ชุมชน ใน 18 จังหวัด หลังดำเนินการ 3 เดือน พบประชากร จำนวนทั้งสิ้น 16,979 คน มีกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 986 คน สมัครใจ ตรวจปัสสาวะ 9,560 คน ไม่สมัครใจตรวจ 613 คน พบผู้เสพ 83 คน พบผู้ติด หรือผู้ที่มีอาการทางจิต 6 คน สมัครใจเข้ารับการบำบัด 176 คน และไม่สมัครใจ 3 คน

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้เสพทั้งหมดทางโครงการฯได้พาเข้าบำบัดสารเสพติดตามขั้นตอน เมื่อบำบัดจนหายขาด ก็กลับสู่สังคมได้ ซึ่งจะเข้าสู่การฝึกอาชีพตามที่ต้องการ อาทิ อบรมการทำ หมูกรอบ, หนังหมูกรอบ, ทำสบู่, เจลล้างมือ, ช่างตัดผม, ช่างซ่อมรถจยย.และ งานก่อสร้าง ซึ่งทุกอาชีพ ผู้บำบัดสามารถนำไป ต่อยอดทางธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพได้

“นอกเหนือปัญหาสิ่งเสพติดแล้วเรายังพบปัญหาอื่นๆ เช่น การแข่งรถในทางสาธารณะ ส่งเสียงดังรบกวนประชาชนในพื้นที่ มั่วสุม ทะเลาะวิวาท และปัญหาพื้นที่จอดรถ ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้าตรวจตรากวดขันให้ถี่ขึ้น เข้าระงับเหตุ รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้าแก้ไขปัญหาการจอดรถ รวมทั้งประสานหน่วยงาน ปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม และขอความ ร่วมมือผู้นำชุมชนเพิ่มวงรอบในการพบปะลูกบ้านให้มากขึ้นกว่าเดิมผลที่ได้รับคือพวกเรามีมวลชนเพิ่มเติมมากขึ้นด้วย” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าว