จากสถานการณ์ที่ยังคงขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกมีราคาพุ่งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเงินเฟ้อก็ไม่อาจต้านเพิ่มขึ้นแบบหยุดไม่อยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลมายังต้นทุนให้กับผู้ประกอบการและประชาชนคนไทยอย่างจัง จนผู้ประกอบการหลายรายไม่สามารถแบกภาระต้นทุนเอาไว้ได้ จนต้องขอปรับขึ้นราคาในหลายรายการแล้วทั้งสินค้าเครื่องดื่ม ก๊าซหุงต้ม

ในการปรับขึ้นราคาครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ค.65) เป็นต้นไป โดยสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย ได้แจ้งว่ามีสินค้าหลายรายการได้ ปรับขึ้นราคา 10% หรือขึ้นประมาณ 1-2 บาท เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลมชื่อดัง ทั้งเป๊ปซี่ โค้ก และอาเจ บิ๊กโคล่า ขึ้นราคา 1-2 บาทต่อขวด ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมของคนไทย และยังมีเครื่องปรุงรส อย่างซอสปรุงรส, น้ำปลา ขึ้นราคา 2 บาทต่อขวด รวมทั้ง โยเกิร์ต สบู่ ลูกอม น้ำจิ้มไก่ ผงชูรส และอีกหลายรายการก็ปรับขึ้นเช่นเดียวกัน

ที่สำคัญสำหรับสายดื่มสายดริ๊งค์ ต้องควักเงินจ่ายเพิ่มกันแน่นอน เพราะทางบุญรอดฯ ได้แจ้งปรับราคา “เบียร์ลีโอ” ทั้งขายปลีกและขายส่ง ปรับขึ้นราคาสูงสุด 1 บาทต่อขวด พร้อมยืนยันไม่มีนโยบายปรับลดปริมาณสินค้า โดยเริ่มแล้ววันนี้ (1 ก.ค.) หลังจากได้พยายามตรึงราคาเดิมไว้นานที่สุดร่วมกว่า 3 เดือน แต่ก็แบกต้นทุนต่อไปไม่ไหว

ขณะที่ นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย ได้มีคำแนะนำแก่ผู้บริโภคว่าไม่อยากให้ตื่นตระหนกตกใจ จนแห่กันไปซื้อสินค้าไว้กักตุน ทางที่ดีควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกปกติ แล้วรอจังหวะที่ผู้ประกอบการนำสินค้าออกมาจัดโปรโมชั่น เช่น 1 แถม 1 จะคุ้มค่ามากกว่า

ขณะเดียวกัน ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ กระทรวงพลังงานได้แจ้งว่าจะปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG อีก กิโลกรัมละ 1 บาท นั่นเท่ากับว่า หากขนาดของถังอยู่ที่ 15 กิโลกรัม จะทำให้ปรับขึ้นถึง 15 บาทต่อถัง มาอยู่ที่ 378 บาทกันแล้ว จากราคา 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม และจะทยอยปรับขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโลกรัมในเดือน ส.ค. เป็น 398 บาท และในเดือน ก.ย. ที่ปรับขึ้น 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม

นอกจากนี้ค่าโดยสารรถก็ปรับขึ้นเช่นเดียวกัน อย่าง ค่าเรือคลองแสนแสบ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป จะปรับเพิ่มอีกระยะละ 1 บาท จากเดิม 10-20 บาทตามระยะทาง เป็น 11-21 บาทตามระยะทาง ขณะที่รถร่วม บขส.จะขึ้นค่าโดยสาร 5 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งจะปรับในวันที่ 4 ก.ค.นี้ โดยอาจจะมีรถประเภทอื่นๆจะขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารตามกันมาติดๆ ส่วนรถ บขส.จะตรึงราคาต่อไปอีก 3 เดือน

ไม่เว้นแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยี่ห้อดังอย่าง “มาม่า” ที่จะขอกระทรวงพาณิชย์อีกครั้งในการขอปรับขึ้นราคาจาก 6 บาทต่อซอง เป็น 7 บาทต่อซอง เช่นเดียวกับข้าวสารถุงที่จะปรับขึ้นราคาก่อนหน้านี้ โดยกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน ได้พูดคุยกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทยและผู้ประกอบการข้าวสารบรรจุถุงรายใหญ่ ยืนยันแล้วว่า ไม่ได้ปรับขึ้นราคา แต่เป็นการปรับกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือโปรโมชั่นของผู้ประกอบการในบางรายเท่านั้น

ด้าน นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน บอกว่า ได้ประชุมกับห้างค้าปลีกดังและร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ ไม่ว่าจะ แม็คโคร, บิ๊กซี, โลตัส, ท็อปส์, ฟู้ดแลนด์, เซเว่นอีเลฟเว่น, ลอว์สัน, ซีเจ เอ็กซ์เพรส และ แม็กซ์แวลู ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าต่อไป ซึ่งผู้ประกอบการได้ยืนยันแล้วว่าจะร่วมจัดโปรโมชั่นเพื่อลดภาระค่าครองชีพคนไทย

นอกจากรายการสินค้าข้างต้นที่ขอปรับราคาขึ้นในวันนี้ (1 ก.ค.)กันแล้ว ยังไม่นับรวมที่จะพาเหรดตามกันมาหลังจากนี้อีกมาก และที่ได้ปรับขึ้นราคาสินค้าไปแล้วก่อนหน้านี้มีอยู่หลายรายการ ด้วยเหตุผลเดียวคือ ต้นทุนที่ปรับเพิ่มเพราะราคาน้ำมันพุ่งแรงอย่างต่อเนื่อง.