กรณีนายวัฒนา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิง น.ส.จันทรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ภรรยาที่ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนเสียชีวิตถนนเนินเขาชัน หมู่ 10 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเช้าวันที่ 30 มิ.ย.65ที่ผ่านมา สาเหตุจากเรื่องทะเลาะวิวาทฝ่ายหญิงมักชอบด่าบุพการีฝ่ายชาย และช่วงบ่ายวันเดียวกันได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.คีรีรัฐนิคม และพาไปยึดอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้พงหญ้าข้างทาง โดยตำรวจได้นำตัวไว้ในห้องควบคุมผู้ต้องหาบน สภ.คีรีรัฐนิคม ในข้อหาใช้อาวุธฆ่าผู้อื่นตาย นั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 06.04 น.วันที่ 1 ก.ค. ตำรวจเวรประจำวัน สภ.คีรีรัฐนิคม ที่รับผิดชอบห้องควบคุมผู้ต้องหาได้ทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำออกมาพบว่า นายวัฒนา ได้ผูกคอห้อยกับลูกกรงห้องขัง โดยใช้สายร่มกางเกงกีฬา ที่ญาตินำมาไว้ให้เปลี่ยน ผูกคอตัวเองกับลูกกรงจึงรุดเข้าไปช่วย แต่พบว่าได้เสียชีวิตไปก่อนแล้วจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา ท่ามกลางความเสียใจของญาติและครอบครัวที่เดินทางมาดูเหตุการณ์

ต่อมา พ.ต.อ.เกรียงไกร ไกรแก้ว ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม พร้อมเจ้าหน้าที่อัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพและตรวจสถานที่เกิดเหตุ

และกล้องวงจรปิดพบว่า ขณะเกิดเหตุนายวัฒนาอยู่ในห้องขังเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นเข้ามา โดยได้ปีนขึ้นไปใช้สายร่มของกางเกงผูกกับเหล็กลูกกรงแล้วทิ้งตัวลงมาจนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่า เกิดจากความเสียใจและเกิดความเครียดที่ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาตัวเองที่ตั้งท้องอยู่ ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรต่อโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนายวัฒนา กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ติดใจการตายของลูกชาย ที่ผ่านมาได้ให้ทั้ง 2 แยกครอบครัวไปอยู่ และไม่เคยเล่าปัญหาในครอบครัวให้ฟัง สองวันก่อนเกิดเหตุลูกชายบอกเพียงว่าเครียด ส่วนปัญหาอื่นๆ รวมถึงที่ลูกสะใภ้ตั้งท้องตนเองไม่ทราบมาก่อน อยากฝากบอกและขอโทษครอบครัวฝ่ายหญิงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องนี้ ตนเองก็เสียใจและเท่ากับว่าสูญเสียลูกทั้ง 2 คน เพราะรักแฟนลูกชายเหมือนลูกตัวเอง ก็ขอให้อโหสิกรรมกัน ให้มันจบเพียงเท่านี้

ในขณะที่ทางญาติของ ฝ่ายภรรยาที่ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ได้เดินทางมายัง สภ.คีรีรัฐนิคม เพื่อพบพนักงานสอบสวนเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ เมื่อทราบว่า นายวัฒนาผูกคอเสียชีวิตถึงกับเข่าทรุด และเปลี่ยนความแค้นเป็นอโหสิกรรมต่อกันเพราะต่างสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย