เดือน เม.ย. 2541 เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐยูทาห์ พบร่างของ ‘ลินา เรเยส-เกดเดส’ บรรจุอยู่ในถุงนอนซึ่งมีเทปกาว และเชือกพันไว้รอบ ห่อหุ้มด้วยผืนพรมและมีพลาสติกห่อทับอีกชั้น อยู่ในบริเวณทางหลวงระหว่างรัฐใกล้เมืองเมเดนวอเทอร์ สปริง รัฐยูทาห์ พวกเขาต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะระบุตัวตนของผู้ตายได้ว่าเป็นใคร

ในปี 2561 ทีมสืบสวนของตำรวจก็ประกาศความคืบหน้าของคดีเก่าเก็บคดีนี้ ซึ่งมีการเปิดการสืบสวนขึ้นมาใหม่โดยมีเจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐยูทาห์เป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขาเจอภาพถ่ายที่ตรงกันระหว่างฐานข้อมูลคนหายในเมืองยังส์ทาวน์ รัฐโอไฮโอ และฐานข้อมูลภาพถ่ายจากคดีของรัฐยูทาห์

เจ้าหน้าที่ติดตามจนเจอตัวญาติของ ลินา ซึ่งเดินทางมาจากเม็กซิโกเพื่อมอบตัวอย่างดีเอ็นเอให้ไปตรวจเพื่อเทียบเคียงกัน ซึ่งในที่สุดก็พบว่าเป็นศพไร้ชื่อที่ถูกเรียกว่า ‘เหยื่อจากเมเดนวอเทอร์’ เป็นศพของ ลินา จริง ๆ

หลังจากนั้นอีก 4 ปี หน่วยสืบสวนทั้งจากยูทาห์และโอไฮโอร่วมมือกันสืบร่องรอยจนได้ข้อสรุป เจ้าหน้าที่ได้อธิบายในระหว่างการแถลงข่าวสื่อมวลชนในสัปดาห์นี้ว่า เนื่องจาก เกดเดส ผู้เป็นสามีได้เสียชีวิตไปแล้ว พวกเขาจึงต้องอาศัยการเก็บตัวอย่างจากสมาชิกในครอบครัวของสามีของ ลินา หลายคน เพื่อนำมาสร้างโปรไฟล์ดีเอ็นเอของเขา ซึ่งพบว่าตรงกับดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากเชือกที่พันอยู่รอบศพของเธอ

ทีมสืบสวนกล่าวว่าเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้พวกเขาค้นพบความจริงออกมาได้ ก่อนหน้านี้ เคยมีการตรวจเทียบดีเอ็นเอของ เกดเดส กับดีเอ็นเอที่เก็บจากเชือก แต่ไม่สามารถแปลผลได้ เนื่องจากจำนวนตัวอย่างดีเอ็นเอที่ได้จากการเก็บหลักฐานมีน้อยเกินไป

เกดเดเส เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าลงมือฆาตกรรมภรรยา หลังจากที่เขาปฏิเสธ ไม่ยอมแจ้งความตอนที่เธอหายตัวไป ต่อมาในปี 2544 ก็มีผู้พบเขาเสียชีวิตในรัฐเนวาดา ในลักษณะที่เป็นการยิงตัวตายอย่างชัดเจน

แหล่งข่าว : cbsnews.com

เครดิตภาพ : Utah Department of Public Safety