เมื่อวันที่ 2 ก.ค. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ราคาน้ำยางพาราในภาคใต้อยู่ที่ 64 บาท/กก. ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดเดือน จนตอนนี้เหลืออยู่เพียง 48 บาท/กก. ราคาตกลงถึง 16 บาท ก่อให้เกิดความยากลำบากแสนสาหัสแก่ชาวสวนยางทั่วประเทศ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสินค้าค่าครองชีพสูงขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น ขนาดราคาอยู่ที่ 64 บาท ก็แย่อยู่แล้ว ถ้าราคาตกต่ำแบบนี้ ชาวสวนยางจะอยู่รอดได้อย่างไร

“ผมขอเรียกร้องไปยังนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ขอให้เร่งกำกับดูแลราคาและกลไกยางพาราทุกรูปแบบ ช่วงนี้สถานการณ์โควิดมีผู้ติดเชื้อน้อยลง ทั่วโลกการเดินทางสูงขึ้น มีการใช้ยางรถยนต์ ยางเครื่องบิน เพิ่มขึ้น ราคาไม่น่าจะตกลงแบบนี้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องขยายตลาดและการส่งออกไปต่างประเทศให้มากขึ้น” นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า รัฐบาลควรส่งเสริมการวิจัยการแปลรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ทำถนน ถุงมือผนังบ้านฝ้าเพดาน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ และที่สำคัญคือ การตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเป็นผลิตยางพาราเพื่อส่งออก เราต้องลดการส่งออกยางดิบแผ่นหรือน้ำยาง เพื่อที่จะได้มูลค่าเพิ่มจากการแปรรูปอยู่ในประเทศไทย สิ่งที่ต้องแก้ไขในขณะนี้คือต้องลดจำนวนสวนยางพาราลงไปส่งเสริมให้มีการปลูกพืชชนิดอื่นๆ แทน หรือใช้วิธีส่งเสริมให้ชาวสวนยางปลูกพืชเสริมในสวนยาง รวมไปถึงการเลี้ยงสัตว์ในสวนยางเพิ่มเติม เพื่อเป็นรายได้เพิ่มเติมให้กับชาวสวนยาว การส่งเสริมตรงนี้เป็นหน้าของรัฐบาลที่ต้องเข้ามาดูแล.