เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีการประชุมระดมความคิดเห็น “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมพัฒนาเขารูปช้าง” โดยมีนายสรรเพชญ บุญญามณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายจักธร สุริแสง นายกเทศบาลเมืองเขารูปช้าง นายศิริชัย เอกพันธ์ รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา นายนราเดช คำทัปน์ สมาชิกสภาอบจ.สงขลา พร้อมด้วยกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 สงขลา ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และสมาชิกพรรคฯ ในเขตเทศบาลเมืองเขารูปช้าง เข้าร่วมเวทีระดมความคิดเห็น
โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นทีมงานสาขาพรรคประชาธิปัตย์และนายสรรเพชญที่จัดกิจกรรมครั้งนี้ และดีใจในหลายพื้นที่ที่สาขาพรรคมีความเข้มแข็ง มีการอบรมให้ความรู้แก่สมาชิกพรรค ในเขตเลือกตั้ง วันนี้ในเขตเลือกตั้งที่1 เริ่มต้นด้วย ต.เขารูปช้าง จึงถือเป็นกิจกรรมที่ดี ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาพื้นที่เขารูปช้าง หรือสิ่งที่ทุกคนคิดว่าจะพัฒนาเขารูปช้างไปในทิศทางไหน เราโชคดีที่มีความเป็นหนึ่งเดียว ทั้งเทศบาล สจ. สท. และอบจ. ดังนั้นมีอะไรในระดับเทศบาลก็สามารถไปคุยกับ อบจ.ได้ในระดับหนึ่ง หรือถ้าอบจ.มีงบประมาณไม่พอ ตนในฐานะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล จะพยายามหางบประมาณมาลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำเสียในคลองสำโรง ก็จะหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ปัญหาตรงนี้ นี่คือการประสานกันมาแก้ปัญหา ซึ่งทุกระดับสามารมาประสานกันได้หมด
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า อยากฝากพวกเราทุกคนได้พูดถึงการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ในยุคของนายชวน หลีกภัย เริ่มทำนโยบายความเจริญสู่ภูมิภาคด้วย 3 กระจาย คือกระจายอำนาจ กระจายรายได้ กระจายโอกาส อาทิ การเริ่มก่อสร้างถนน 4 เลนทั่วประเทศ การทำนโยบายนมโรงเรียน จนถึงทุกวันนี้ เริ่มตั้งแต่ศูนย์เด็กเล็ก จนถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในยุคนั้นพรรคประชาธิปัตย์คิดสร้างคน สมัยเป็นรัฐบาลจึงขอเข้ามาดูแล 2 กระทรวง คือกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพัฒนาคนเป็นหลัก รวมถึงนโยบายการตั้งกองทุนเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของคน ไม่ให้เอาการศึกษามาเป็นอุปสรรคในเรื่องของความรวย ความจน ทำให้ทุกคนได้เรียนนี่ก็เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ รวมถึงการให้เงินค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นี่ก็เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำ เพราะนี่คือจุดแข็งของประเทศไทยในเรื่องสาธารณสุข และสิ่งหนึ่งที่พรรคฯ.กำลังทำอยู่ในเวลานี้คือเรื่องสวัสดิการของ อสม. เรื่องเงินฌาปนกิจ ซึ่งอสม.สามารถเอาเงินตรงนี้ไปกู้ได้ โดยได้ประกาศเป็นนโยบายแล้ว การทำเรื่องของการประกันสุขภาพรักษาฟรีทั้งครอบครัว ก็เป็นอีกหนึ่งนโยบายของพรรค ในการรักษาทุกโรค
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้อีกนโยบายหนึ่ง คือเรื่องเงินผู้สูงอายุ เราส่งเสริมให้คนมาลงทุนเพื่อเก็บเงินเหล่านี้มาดูแลในเรื่องสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของทุกคน นี่คือจะบอกว่าเราต้องช่วยกันบอกกล่าว ในยุคของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในการประกันรายได้ของเกษตรกร นี่คือเงื่อนไขหลักในการเข้าร่วมรัฐบาล จึงถือโอกาสนี้ฝากไว้กับทุกคน พรรคประชาธิปัตย์ก้าวสู่ปีที่ 77 ประสบการณ์ทางการเมืองผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน พรรคประชาธิปัตย์มีระบบ และไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาคเหมือนกันหมด นี่คือสถาบันทางการเมือง หรืออุดมการณ์ทางการเมืองที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงพรรคฯจะกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นมากที่สุด โดยยุคของนายชวนเป็นนายกฯ ได้เกิดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล และอบจ. นี่คือการกระจายอำนาจ ขณะที่สมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มาทำในเรื่องของความยากจน เราจึงมาทำในเรื่องการแก้ความยากจนในชนบท ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงเปลี่ยนจากชนบทที่ขาดแคลนทุกอย่างในอดีต ให้เป็นเมือง มีความเจริญ ซึ่งในยุคนี้จึงเกิดเมืองขนาดเล็ก เมืองขนาดกลาง และเมืองขนาดใหญ่ นี่คือผลพวงของการกระจายอำนาจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ยกฐานสภาตำบลให้เป็นอบต.
“ผมมีความเชื่อว่าถ้าประเทศไทยทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง ประเทศไทยก็เข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นการลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย รวมถึงการจัดที่อยู่ทำกินให้กับประชาชนอย่างเพียงพอทั่วประเทศ นี่คือนโยบายจากพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องการประกันรายได้ ทำให้เกิดการหมุนเวียนการใข้จ่ายจากภาคเกษตรกรรม วันนี้จึงอยากเห็นเราตั้งกลุ่มขึ้นมาแล้วส่งข้อความที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอบรมออนไลน์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของพี่น้อง เป็นการลดค่าครองชีพ สร้างรายได้ โดยใช้เทคโนโลยี่รวมถึงการรวมตัวกันให้มีความเข้มแข็ง โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ พร้อมทั้งการรับสมัครสมาชิกใหม่ๆ เพื่อที่จะมาร่วมกันศึกษาระดมความคิดเห็นในการร่วมกันพัฒนาเขารูปช้าง พัฒนาสงขลา และเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับพรรคประชาธิปัตย์”นายนิพนธ์ กล่าว
