เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ร.ต.อ.ปัญญา อามาตย์เสนา รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายงัดหอพักแห่งหนึ่ง ริมถนนถนนอยุธยา-อ่างทอง สายใน หมู่ 6 ต.ลุมพลี อ.พระนครศรีอยุธยา โดยที่เกิดเหตุเป็นห้องพักห้องเลขที่ 1 อยู่ชั้นล่างของหอพัก พบประตูหน้าห้องถูกคนร้ายตัดสายยู ตรวจสอบภายในห้องมีร่องรอยการถูกรื้อค้นข้าวกระจัดกระจาย จากการตรวจสอบยังพบว่า คนร้ายได้ใช้ไม้ดันกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณทางเดินหน้าห้องภายในหอพักไปทิศทางอื่น

นายศุภเสกข์ ชำมะรี อายุ 32 ปี เจ้าของห้อง กล่าวว่า ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานไปรษณีย์ ศูนย์คัดแยกสินค้า เพิ่งจะมาเช่าหอพักแห่งนี้ได้ประมาณ 2 เดือน เพราะใกล้ที่ทำงาน ตนทำงานช่วงกลางคืน ระหว่างทำงานอยู่เพื่อนข้างห้องโทรมาบอกว่า ประตูถูกแง้มออก มีรอยถูกงัดจึงรีบเดินทางมาดู พบว่าห้องถูกคนร้ายเข้ามาขโมยเอาทรัพย์สินไปเป็นพระเลี่ยมทอง 3 องค์ แหวนหลวงปู่ดู่ เหรียญหลวงพ่อรวย เลสหลวงพ่อรวย จำนวนหลายเส้น และเหรียญที่เก็บสะสมไว้ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูปดิจิทัล ลำโพงมาร์แชลรวม มูลค่าแสนกว่าบาท โดยคนร้ายยังได้นำเชือกไปผูกกับสายยูห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน เพื่อไม่ให้คนภายในห้องออกมาพบเจอขณะก่อเหตุช่วงฝนกำลังตกหนัก คาดว่าคนร้ายน่าจะมาก่อเหตุช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนขึ้นไปเพราะช่วงเวลา 22.00 น. ตนยังกลับมาที่ห้องพักอยู่ ตนเสียดายของที่ถูกคนร้ายขโมยไปเพราะอุตส่าห์ตั้งใจทำงานเก็บเงินหาซื้อและเช่าวัตถุมงคลไว้ แต่ก็มาถูกคนร้ายขโมยไป

ด้าน น.ส.สมนึก เด่นโซ๊ะ ที่อยู่ห้องฝั่งตรงข้าม เล่าว่า เมื่อช่วงหัวค่ำ ขณะที่ตนนอนอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาทำอะไรอยู่บริเวณหน้าห้อง จึงเปิดประตูออกไปดูก็พบเห็นข้างห้องกำลังเปลี่ยนหลอดไฟอยู่ แต่ช่วงนั้นไม่ได้สังเกตว่าห้องของผู้เสียหายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นถูกคนร้ายงัดเข้าไปหรือยัง แต่ช่วงกลางดึกแฟนของตนได้ยินเสียงกุกกักแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมาทราบอีกทีก็ตอนเช้า และคนร้ายยังใช้เชือกสีขาวซึ่งเป็นผ้าถูพื้นของตนที่วางไว้หน้าห้องนำไปผูกเข้ากับสายยูข้างห้องที่อยู่ติดกับตน เพื่อไม่ให้ออกมาเจอคนร้ายขณะก่อเหตุ

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้เก็บสิ่งของที่คาดว่าคนร้ายจะทิ้งรอยนิ้วมือไว้เพื่อนำไปตรวจสอบรอยนิ้วมือและจะจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเร่งติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.