เมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่เมืองพุกาม ประเทศเมียนมา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เครื่องบินของเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทย  ว่า เหตุการณ์เครื่องบินเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าเคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต แต่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย โดยมักเกิดเมื่อเขามีปัญหากับชนกลุ่มน้อย ตนจึงเข้าใจว่าสถานการณ์ในลักษณะนี้มันสามารถมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ในแต่ละยุค แต่เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ กระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงได้มีการประท้วงไป สำหรับการปะทะระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยเกิดขึ้นตามสถานการณ์เป็นช่วงๆ ซึ่งขณะนี้มีมากขึ้นต่างจากหลายปีที่ผ่านมา

“เราต้องเข้าใจว่าประเทศที่มีชายแดนติดต่อกัน พอเครื่องบินประเภทนี้ขึ้นมันเร็วอยู่แล้ว แต่ผมเชื่อว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อได้มีการพูดคุยกันระหว่างฝ่ายที่ดูแลชายแดน และมีการขอโทษกันแล้ว เขาก็จะดูแลไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก” นายดอนกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระทรวงการต่างประเทศจะประท้วงเมียนมาด้วยหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ระหว่างการประชุมครั้งนี้ ตนจะหารือทวิภาคีกับนายวันนะ หม่อง ลวิน รมว.ต่างประเทศเมียนมา ก็สามารถพูดคุยกันได้ ทั้งนี้ต้องเข้าใจในพื้นฐานว่าเรื่องอย่างนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อุบัติเหตุแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด จึงไม่อยากให้วิตกกังวล บางครั้งเพียงแค่ซ้อมก็บินล้ำเข้ามาได้ เมียนมามีปัญหาของตัวเองมากอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าเขาไม่อยากมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะด้านไหนก็ตาม

เมื่อถามว่าหลายคนวิจารณ์ว่ากระทรวงต่างประเทศล่าช้า  นายดอน กล่าวว่า  กระทรวงการต่างประเทศไม่มีคนเฝ้าชายแดน เราต้องรับทราบข้อมูลจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการก่อน จึงไม่สามารถพูดได้ว่ากระทรวงฯช้า เราทราบเมื่อเป็นข่าวแล้ว และได้ทราบเช่นกันว่าหน่วยงานในพื้นที่และในระดับแม่ทัพภาคของทั้ง 2 ฝ่าย มีการพูดคุยกัน  ซึ่งชัดเจนว่าฝ่ายไทยดำเนินการโดยเร็ว ขณะที่ฝ่ายเมียนมาตอบมาแล้วว่าเขาเสียใจและจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ถ้าหลังจากนี้ยังเกิดอีก ก็ต้องมาว่ากัน เพราะมันไม่ปกติ.