เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ” แพทย์กุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิด ได้โพสต์ข้อความระบุถึง “เรื่องเล่าจากจิตแพทย์เด็กท่านหนึ่ง” ว่า วันก่อนได้คุยกับคุณครูท่านหนึ่งค่ะ ท่านบอกว่าท่านไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ความเป็นครูของท่าน คือ ตอนเช้าเห็นเด็กใส่กัญชาในกระติกน้ำพกมาโรงเรียน ตอนกลางวัน เด็กมัธยมปิดล็อกห้องเรียน เพื่อสูบกัญชามีควันฟุ้งออกมา

ครูจะเข้าไปห้ามปรามก็จะชกครู (ท่านคาดว่าเด็กคงเมากัญชาถึงกล้าจะทำแบบนั้น) โรงเรียน เรียกผู้ปกครองมาพูดคุยทันที แต่ก็รู้ว่าคงจะยากที่จะควบคุมเพราะผู้ปกครองสนับสนุนเนื่องจากเป็นผู้ขาย คุณครูถามว่าควรจัดการปัญหาอย่างไรดี หนูก็ได้แต่ตอบว่าให้ส่งเด็กไปรักษาตามกระบวนการ แต่ในใจมันพูดไม่ออกเลยค่ะ

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก “สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ” ยังโพสต์ข้อความ “ปกป้องเด็กไทยจากภัยกัญชา” ระบุเพิ่มเติมว่า หญิงตั้งครรภ์ห้ามทานหรือเสพกัญชา เพราะอาจทำให้สมองของทารกในครรภ์ผิดปกติ และส่งต่อความผิดปกติไปทางพันธุกรรม (epigenetic) สาร THC ในกัญชาละลายในไขมัน จึงออกทางน้ำนมในระดับสูงกว่าในเลือด อยู่ในน้ำนมแม่ได้นานหลายสัปดาห์ และไปทำลายสมองของทารกที่ทานนมแม่ หากแม่ทานเข้าไปต้องปั๊มนมทิ้งนานถึง 6 สัปดาห์ อัตราให้นมแม่ซึ่งมีน้อยอยู่แล้วก็ยิ่งลดลงไปอีก เพราะหากต้องงดนมแม่นานถึง 6 สัปดาห์ โอกาสจะกลับมาทานนมแม่ก็เป็นไปได้ยาก

การเปิดเสรีกัญชา ทำให้มีการแอบผสมกัญชาในอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่ละอายใจ โดยหวังผลให้ผู้บริโภคเสพติด การทำเช่นนี้ส่งผลเสียต่อหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร ทำให้เด็กๆซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติถูกทำลาย หากพ่อหรือแม่ทานหรือเสพกัญชาแล้วนอนเตียงเดียวกับลูกน้อย จะเพิ่มความเสี่ยง SIDS ลูกเสียชีวิตขณะนอนหลับ ขอให้ยกเลิกเปิดเสรีกัญชาแต่ใช้เพื่อการแพทย์เท่านั้น.

ขอบคุณข้อมูลเพจเฟซบุ๊ก “สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ”