สำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันที่ 5 ก.ค. หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทม์ส เผยแพร่รายงานของสำนักงานสถิติลาว ว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศแบบเทียบปีต่อปี สูงแตะ 23.6% เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นสถิติสูงที่สุด นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2543 โดยมีปัจจัยหลักจากราคาเชื้อเพลิง ก๊าซ และสินค้านำเข้าประเภทอื่นที่พุ่งสูง รวมถึงเงินกีบลาวที่อ่อนค่าลง


ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน ก๊าซ และทองคำ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 107.1% 69.4% และ 68.7% ตามลำดับ เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งเหนือการคาดการณ์ และอัตราเพดาน 12% ที่กำหนดโดยรัฐบาล


สำหรับราคาผู้บริโภคที่เพิ่มสูงสุด เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ในภาคการสื่อสารและการขนส่ง ซึ่งเพิ่มขึ้น 55.5% เมื่อเทียบแบบปีต่อปี รองลงมาคือ สินค้าในครัวเรือน 22.3% หมวดสินค้าและบริการ 29.7% หมวดโรงแรมและร้านอาหาร 20.7% และหมวดที่อยู่อาศัย น้ำ ไฟฟ้า และก๊าซ 20%


ขณะเดียวกัน ราคาอาหาร เครื่องปรุงรส เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ เสื้อผ้า รองเท้า ยา อุปกรณ์ก่อสร้าง ยานพาหนะ อะไหล่ และสินค้านำเข้าอื่น ๆ เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน สวนทางกับเงินกีบลาวที่อ่อนค่าต่อเนื่อง แม้รัฐบาลจะจัดสรรมาตรการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา


นอกจากนี้ สงครามและความขัดแย้งยืดเยื้อระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลให้ตลาดเชื้อเพลิงทั่วโลกผันผวน ท่ามกลางความกังวล กรณีเศรษฐกิจโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงรุนแรง และวิกฤติด้านอาหารที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเสริมว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลกำลังดิ้นรนจัดหาเชื้อเพลิงให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน


ทั้งนี้ ทางการลาวปรับขึ้นราคาน้ำมัน 3 ครั้ง เมื่อเดือน มิ.ย. ส่งผลกระทบต่อภาคการขนส่ง อีกทั้งทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าในตลาดท้องถิ่นสูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อในลาวแบบเทียบปีต่อปีสูงแตะ 8.54% เมื่อเดือน มี.ค. 9.86% เมื่อเดือน เม.ย. และ 12.8% เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยสถานการณ์ล่าสุดพบว่า 1 บาทไทย จะเท่ากับประมาณ 420 กีบ.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA